ประวัติเชลซี Chelsea ทีมฟุตบอลอังกฤษที่อยู่มานานกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในเขตฟูลัม, ลอนดอน ฐานแฟนคลับก็เหนียวแน่นไม่แพ้ใคร ด้วยความแกร่งของทีมที่เคยล้มแชมป์มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทีมแมนยู หรือลิเวอร์พูล ก็สามารถเอาชนะได้อย่างไม่ยากนัก สลับกันแพ้ชนะมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เชลซีจึงเป็นอีกทีมที่น่าทำความรู้จัก คุ้นเคยเข้าไว้ เพราะในอนาคตทีมนี้อาจจักลับมาทวงบัลลังก์แชมป์อีกรอบก็เป็นได้
แทงบอลเชลซี แทงบอลออนไลน์ กับเราที่ FIFA55
สารบัญเนื้อหา
ประวัติ เชลซี Chelesa
สโมสรฟุตบอลเชลซี (อังกฤษ: Chelsea Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่ตั้งอยู่ในเขตฟูลัม, ลอนดอน ซึ่งเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรฟุตบอลเชลซีก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1905 สโมสรได้เล่นอยู่บนลีกสูงสุดของประเทศเป็นส่วนใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร สนามเหย้าของสโมสรคือสแตมฟอร์ดบริดจ์ มีความจุ 41,837 ที่นั่ง สแตมฟอร์ดบริดจ์เป็นสนามเหย้านับตั้งแต่มันถูกสร้างขึ้น
ก่อตั้ง (1905 – 1951)
สโมสรฟุตบอลเชลซี ก่อตั้งในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.1905 โดย กุส เมียร์ส และได้เปลี่ยนสนามสแตมฟอร์ดบริดจ์จากสนามกรีฑาเป็นสนามฟุตบอล โดยในตอนแรกจะใช้ชื่อว่า ฟูแลมเอฟซี แต่ไปซ้ำกันกับสโมสรฟุตบอลฟูแลม เลยต้องเปลี่ยนชื่อ โดยตอนแรกใช้ชื่อว่า เคนชิงตันเอฟซี,สแตมฟอร์ดบริดจ์เอฟซี แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น ลอนดอน เอฟซี และเปลี่ยนเป็นเชลซีเอฟซี และได้ก่อตั้ง ณ ผับไรซิ่งซัน (ณ ปัจจุบันชื่อ เดอะบุชเชอร์สฮุก)
สโมสรเชลซีได้เลื่อนชั้นมาเล่นดิวิชั่น1ครั้งแรกในซีซั่นที่ 2 หลังการก่อตั้งสโมสร (ฤดูกาล 1906-07) แต่พวกเขาก็ลงไปขึ้นมาระหว่างดิวิชั่น1และดิวิชั่น2เรื่อยๆ พวกเขาเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ในปี 1915 แต่ก็แพ้สโมสรฟุตบอลเชฟฟีลด์เวนส์เดย์ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดไป 0 ประตูต่อ 3 และจบอันดับที่3ในดิวิชั่น1ฤดูกาล 1919-20 และพวกเขาก็เริ่มซื้อสตาร์ดังเข้าทีมมากขึ้น
สมัครแทงบอลออนไลน์ คลิก
แชมป์แรก (1952 – 1961)
อดีตกองหน้าอาร์เซนอลและทีมชาติอังกฤษอย่าง เท็ด เดร็ก ได้เข้ามาคุมเชลซีใน ค.ศ.1952 และปรับสโมสรให้ทันสมัยด้วยการโละกลุ่มทหารหลวงวัยเกษียณ และได้ปรับทีมเยาวชนและการซ้อมให้เข้มข้นมากขึ้น และซื้อสตาร์จากลีกสมัครเล่นมากมาย จนกระทั่งพวกเขาได้ถ้วยแรกในประวัติศาสตร์ในฤดูกาล 1954-55 เมื่อพวกเขาได้แชมป์ดิวิชั่น 1 และอันที่จริงเชลซีจะเป็นทีมแรกจากอังกฤษที่ได้ไปฟุตบอลระดับสโมสรยุโรปด้วยซ้ำ แต่ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษห้ามไว้ไม่ให้ไปแข่งขัน เดรกถูกปลดจากตำแหน่งในปี 1961 และแทนที่ด้วยทอมมี่ โดเชอร์ตี้ที่เข้ามาในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการทีม
กลับมารุ่งเรืองและฉายา “สิงห์บอลถ้วย” (1992 – 2004)
ในปี 1992 ก็เริ่มมีการซื้อสตาร์ดังมากมาย และเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ ฤดูกาล 1993-94 โดยฝีมือของ เกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล แต่พวกเขาก็แพ้สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปอย่างราบคาบ 0-4 จนกระทั่งรุด กุลลิต เข้ามาทำทีมในฐานะ ผู้เล่น-ผู้จัดการทีม ในปี 1996 และพาทีมเข้าชิงชนะเลิศในปี 1997 และเอาชนะสโมสรฟุตบอลมิดเดิลส์เบรอไปได้ 2-0 จากการยิงของโรแบร์โต ดี มัตเตโอในช่วงเวลาเพียงแค่ 42 วินาทีเท่านั้น และเอ็ดดี นิวตันในนาทีที่ 83 กุลลิทถูกแทนที่โดยจิอันลูก้า วิอัลลี่โดยพาทีม
- เข้าชิงลีกคัพปี 1998 และชนะมิดเดิลสเบรอด้วยสกอร์เดิม ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และ
- เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพปี 1998 และได้แชมป์สมัยที่สองด้วยการเอาชนะเฟาเอฟเบชตุทท์การ์ทไป 1-0 จากประตูของจันฟรังโก โซลาซึ่งยังลงมาเล่นไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ
- ชนะเลิศยูฟ่าซูเปอร์คัพในปีเดียวกันด้วยการเอาชนะเรอัลมาดริดไป 1-0
- ชนะเลิศเอฟเอคัพในปี 2000 โดยการเอาชนะสโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลาไป 1-0 จากประตูของโรแบร์โต ดี มัตเตโอคนเดิม
- ได้สัมผัสยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกแต่ก็ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย
- เข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี2001-02 แต่สุดท้ายก็พ่ายสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลไป 0-2
สำหรับในประเทศไทยเชลซียุคนี้ถือว่าเป็น “สิงห์บอลถ้วย” เลยทีเดียว
(2011 – ปัจจุบัน)
ซีซั่น 2011-12 เป็นซีซั่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อพวกเขาเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกและเอาชนะสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิกในการดวลจุดโทษ โดยพวกเขาเกือบจะแพ้เมื่อโทมัส มึลเลอร์โหม่งผ่านปีเตอร์ เช็กเข้าไป แต่ในนาทีที่ 88 ดีดีเย ดรอกบาก็โหม่งผ่านมานูเอล นอยเออร์ตีเสมอเป็น 1-1 และดวลจุดโทษเอาชนะ 4-3 และเป็นแชมป์ไปในที่สุด อีกทั้งยัง
- คว้าแชมป์เอฟเอคัพได้อีกสมัยด้วยการเอาชนะลิเวอร์พูลในรอบชิงชนะเลิศ
- คว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีกไปได้จากการเอาชนะสโมสรฟุตบอลไบฟีกา 2 ประตูต่อ 1 จากประตูชัยของ เฟร์นานโด ตอร์เรส และ บรานิสลาฟ อีวานอวิช
ในปีต่อมาพวกเขาได้ดึงโชเซ มูรีนโยกลับมาคุมทีมอีกครั้ง แต่ไม่ได้แชมป์อะไรเลยในปีแรก แต่ในปีต่อมาพวกเขาคว้าดับเบิ้ลแชมป์ด้วยการ
- คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014–15 ได้สำเร็จ
- คว้าแชมป์แคปิตอลวันคัพด้วยการเอาชนะสโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ไป 2-0 จากจอห์น เทอร์รี่และ เดียโก โกสตา
ในฤดูกาล 2015-16
พวกเขามาพร้อมกับความคาดหวังที่สูงมาก แต่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้เลยในปรีซีซั่น และแพ้ศึกเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ต่ออาร์เซนอลไป 0-1 และเป็นครั้งแรกด้วยที่โชเซ มูรีนโยแพ้ให้กับอาร์แซน แวงแกร์ด้วย และพวกเขาแพ้ได้ทุกทีมไม่เว้นแม้กระทั่งน้องใหม่จากการพ่ายสโมสรฟุตบอลบอร์นมัทไป 0-1 และหลังจากการพ่ายแพ้เลสเตอร์ซิตี 1-2 ทำให้อบราโมวิชต้องตัดสินใจปลดโชเซ มูรีนโยออก และดึงกุส ฮิดดิ้งค์เข้ามาแทน ถึงแม้จะดีขึ้นบ้าง แต่ก็เสมอบ่อยมาก และตกรอบทุกถ้วยที่ลงเล่น ทำให้จบฤดูกาลด้วยอันดับ10ไม่ได้ไปฟุตบอลระดับทวีป
ในปีต่อมาอันโตนีโอ กอนเตได้เข้ามาคุมทีมหลังจบศึกยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศสและทำทีมชนะสามนัดแรก ก่อนที่จะเสมอให้กับสโมสรฟุตบอลสวอนซีไป 2-2 หลังจากนั้นก็แพ้ลิเวอร์พูล 1-2 และแพ้อาร์เซนอล 0-3 แต่หลังจากได้เปลี่ยนแผนเป็น 3-4-3 พวกเขาก็ชนะ 13 นัดรวดเป็นสถิติสโมสร ก่อนที่จะพ่ายท็อตแนมฮ็อทสเปอร์สไป 0-2 ที่ไวต์ฮาร์ทเลน และยังไม่แพ้ใครหลังจากแพ้ท็อตแน่มอีกเลยจนกระทั่งพ่ายให้กับคริสตัลพาเลซ 1-2 คาสแตมฟอร์ดบริดจ์ แต่ก็สามารถคว้าแชมป์ได้หลังจากการเอาชนะเวสบรอมมิชอัลเบี้ยนไป 1-0 ที่เดอะฮอว์ธอร์นส์ ก่อนจะทำสถิติแชมป์ที่ชนะ 30 นัดรวดในเวลาต่อมา
ต่อมาในฤดูกาล 2017-18
เชลซีพลาดท่าพ่ายเบิร์นลีย์ 2-3 ในนัดแรก แต่ในนัดต่อ ๆ มา ก็สามารถรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้ จนกระทั่งท้ายฤดูกาลกลับฟอร์มหลุดดื้อๆ จากที่เคยการันตีพื้นที่ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กลายเป็นหลุดและไป ยูฟ่ายูโรปาลีก แทน เชลซีได้ปลดกอนเตและให้ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เข้ามาคุมทีมแทน เขาได้สร้างสถิติชนะหลายนัดร่วมกับลิเวอร์พูลและแมนซิตี้ แต่เล่นไปเล่นมาผลงานกลับสะดุดดื้อๆ และแพ้บอร์นมัธไปถึง 0-4 ทำให้อนาคตของซาร์รี่ในช่วงนั้นไม่ค่อยดีนัก
รวมถึงถูกแมนเชสเตอร์ซิตีถล่มแบบหมดสภาพไปถึง 0-6 แพ้เละที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกของสโมสรเชลซี แถมยังตกรอบเอฟเอคัพด้วยการพ่ายแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 0-2 คาเดอะบริดจ์ รวมไปถึงการพ่ายจุดโทษแมนฯ ซิตี้ในศึกลีกคัพในการดวลจุดโทษ 3-4 แต่นั่นเป็นลางดีเพราะการรับมือแมนฯ ซิตี้ในเวลา 120 นาทีได้สำเร็จ แต่ก็มีปัญหาเมื่อเกปา อาร์ริซาบาลากาดันขัดคำสั่งให้เปลี่ยนตัวของเมาริซิโอ ซาร์รีทำให้หลายคนกังวลถึงสปิริตของทีม ซึ่งทั้งคู่ก็ออกมาขอโทษเสร็จสรรพ พร้อมการดร็อปเกปาในนัดที่เอาชนะท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์สไป 2-0 และนัดต่อมาก็เอาชนะฟูแลมไป 2-1 ถึงคราเวนคอตเทจโดยที่เกปาได้ลงสนาม นับเป็นสัญญาณที่ดีของความสัมพันธ์ของทั้งคู่
หลังจากนั้นเชลซีแม้จะสะดุดบ้าง แต่ด้วยความที่อีกสามทีมที่ชิงสามอันดับแรกสะดุดทั้งหมด ทำให้เชลซีสามารถคว้าสามอันดับแรกได้สำเร็จ ส่วนในฟุตบอลสโมสรยุโรปอย่างยูฟ่า ยูโรปาลีก พวกเขาชนะทุกนัดตั้งแต่รอบ 32 ทีมถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย จนกระทั่งสะดุดในรอบรองชนะเลิศกับไอน์ทรัคค์ แฟรงค์เฟิร์ต ด้วยการเสมอ 1-1 ทั้งสองนัด แต่ก็สามารถชนะจุดโทษได้ด้วยสองเซฟของเกปา เข้าชิงชนะเลิศกับอาร์เซนอลที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน และเอาชนะไปได้อย่างท่วมท้น 4-1 ด้วยประตูของ ชิรูด์,อาซาร์,และเปโดร
- คว้าแชมป์ยูโรปาลีกสมัยที่สอง และยังเป็นแชมป์แรกในชีวิตของ เมาริซิโอ ซาร์รี ตั้งแต่ทำงานกุนซือมาด้วย
ในฤดูกาล 2019-20
แต่หลังจากนั้นเชลซีก็ต้องเสียทั้งเอแด็ง อาซาร์, ดาวิด ลุยส์ รวมไปถึงกุนซืออย่างเมาริซิโอ ซาร์รี และยังไม่สามารถซื้อนักเตะทั้งฤดูกาล 2019-20 ได้จากการผิดกฏผู้เล่นเยาวชนถึง 31 คน แต่แฟนเชลซีก็ได้ยินดีอีกครั้งเมื่อได้แฟรงค์ แลมพาร์ด มาคุมทีม และยังได้เปลี่ยนถ่ายผู้เล่นหลายคน ด้วยนักเตะที่มีไม่เยอะทำให้ช่วงแรกเชลซีฟอร์มไม่นิ่งอย่างมาก โดยเฉพาะนัดแรกที่ถูกแมนฯ ยูถล่มถง 4-0 แต่เมื่อปรับตัวได้แล้ว เชลซีก็มีฟอร์มที่ร้อนแรงในลีก ชนะ 6 นัดรวด แต่ก็กลับไปมีฟอร์มแย่เหมือนเดิมในช่วงปลายปี 2019 ก่อนที่จะกลับมามีฟอร์มดีอีกครั้งเมื่อสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกด้วยการเอาชนะลีลล์ไป 2-1 ก่อนที่จะไม่ชนะใคร 4 นัดรวด แต่ก็กลับมาเอาชนะท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์สได้ 2-1 แต่ก็แพ้บาเยิร์นมิวนิคในบ้านในรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนัดแรกถึง 0-3
สนใจเกมพนันออนไลน์ กีฬา หวย และอื่นๆ คลิกเลย
สถิติการแข่งขันได้แชมป์
ระดับประเทศเชลซีชนะเลิศ
- Premier League : 6 สมัย
- FA CUP : 8 สมัย
- EFL CUP : 5 สมัย
- FA Community Shield : 4 สมัย
- Full Members Cup : 2 สมัย
ส่วนการแข่งขันระดับนานาชาติ เชลซีชนะเลิศ
- UEFA Champions League : 1 สมัย
- UEFA EUROPA League : 2 สมัย
- UEFA CUP : 2 สมัย
- UEFA Super Cup : 1 สมัย
- FIFA Club World Cup : 1 สมัย
- World Football Challenge : 1 สมัย
เชลซีได้แชมป์พรีเมียร์ลีกกี่สมัย
6 สมัย ได้แก่ ปี
- 2016-2017
- 2014-2015
- 2009-2010
- 2005-2006
- 2004-2005
- 1954-1955
สถิติ เชลซีล่าสุด
การแข่งขันล่าสุด
ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ฟอร์มเชลซีล่าสุด
ตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เชลซี
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ฉายา : ทหารเกษียณ (กระทั่งปี 1952) เดอะบลูส์ (ปัจจุบัน) “สิงโตน้ำเงินคราม”(ฉายาในประเทศไทย)
- ผู้จัดการทีมคนล่าสุด : โทมัส ทุคเคิล
- เพลงประจำสโมสร : Blue is the Colour
- เว็บสโมสร : /index.html
รายชื่อนักเตะเชลซี 2021-2022
นักเตะคนดังตัวเก่งของทีมในฤดูกาลนี้ ได้แก่
- ฮาคิม ซิเย็ค
- ทีโม แวร์เนอร์
- เมสัน เมาท์
- คริสเตียน พูลิซิช
เบอร์เสื้อ | รูป | นักเตะ | ตำแหน่ง | สัญชาติ | อายุ |
---|---|---|---|---|---|
16 | เอดูอาร์ด เมนดี้ | ผู้รักษาประตู | เซเนกัล | 29 | |
1 | เกปา อาร์ริซาบาลาก้า | ผู้รักษาประตู | สเปน | 27 | |
13 | มาร์คัส เบลทิเนลลี่ | ผู้รักษาประตู | อังกฤษ | 29 | |
2 | อันโตนิโอ รูดิเกอร์ | เซ็นเตอร์แบ็ค | เยอรมนี | 28 | |
3 | มาร์กอส อาลอนโซ | เซ็นเตอร์แบ็ค | สเปน | 30 | |
4 | อันเดรียส คริสเตนเซ่น | เซ็นเตอร์แบ็ค | เดนมาร์ก | 25 | |
6 | ติอาโก้ ซิลวา | เซนเตอร์แบ็ค | บราซิล | 37 | |
14 | เทรโวห์ ชาโลบาห์ | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 22 | |
21 | เบน ชิลเวลล์ | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 24 | |
24 | รีซ เจมส์ | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 21 | |
28 | เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า | แบ็คขวา | สเปน | 32 | |
31 | มาล็อง ซาร์ | กองหลัง | ฝรั่งเศส | 22 | |
5 | จอร์จินโญ่ | มิดฟิลด์ | อิตาลี | 29 | |
7 | เอ็นโกโล่ ก็องเต้ | มิดฟิลด์ | ฝรั่งเศส | 30 | |
8 | มาเตโอ โควาซิช | มิดฟิลด์ | ออสเตรีย | 27 | |
12 | รูเบน ลอฟตัส ชีค | มิดฟิลด์ | อังกฤษ | 25 | |
17 | ซาอุล ญีเกซ | มิดฟิลด์ | สเปน | 26 | |
18 | รอสส์ บาร์คลีย์ | มิดฟิลด์ | อังกฤษ | 27 | |
19 | เมสัน เมาท์ | มิดฟิลด์ตัวรุก | อังกฤษ | 22 | |
32 | ลูอิส เบเกอร์ | มิดฟิลด์ | อังกฤษ | 26 | |
9 | โรเมลู ลูกากู | กองหน้าตัวเป้า | เบลเยียม | 28 | |
10 | คริสเตียน พูลิซิช | กองหน้า | สหรัฐอเมริกา | 23 | |
11 | ติโม แวร์เนอร์ | กองหน้าตัวเป้า | เยอรมนี | 25 | |
20 | คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย | กองหน้า | อังกฤษ | 20 | |
22 | ฮาคิม ซิเยค | กองหน้าตัวริมเส้นกด้านซ้าย | โมร็อคโค | 28 | |
29 | ไค ฮาแวร์ตซ์ | กองหน้า | เยอรมนี | 22 | |
- | ชาร์ลี มูซอนด้า จูเนียร์ | กองหน้า | เบลเยี่ยม | 25 |
ดูรายชื่อนักเตะเชลซี 2021-2022 เพิ่มเติม
สรุป
จะเห็นได้ว่าทีมเชลซีนั้น ก็มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานไม่แพ้ทีมฟุตบอลดังทีมอื่นเลย แถมฝีเท้าและสถิติการเล่นก็ไม่แพ้ใครด้วย ติดโผอยู่ใน Top 5 ของลีก เสมอมา และยังเคยครองแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้ถึง 6 สมัยด้วยกัน เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ สำหรับทีมเชลซี ถึงแม้ฟอร์มการเล่นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็มีแนวโน้มกลับมาอยู่ในทางที่ดี เชื่อว่าปีนี้ทีมเชลซีจะสามารถคว้าถ้วยรางวัลมาให้เหล่าแฟนๆ สิงโตน้ำเงินครามได้ชื่นใจอีกสักรอบแน่ๆ
แทงบอลออนไลน์กับ fifa55 ขั้นต่ำ 100 บาทเท่านั้น ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ เล่นง่าย จ่ายจริงกำไรเน้นๆ แถมเครดิตฟรีให้เล่นเพียบ แจกโปรโมชั่นให้เหล่าสมาชิกเป็นรางวัลทุกสัปดาห์ ที่ ฟีฟ่า55 ยังมีแอดมินใจดี คอยให้บริการตอบคำถาม 24 ชั่วโมง ติดปัญหาขัดข้องตรงไหนถามได้ตลอดเวลา จะตีหนึ่ง ตีสอง หลังดูบอลเสร็จก็มีคนตอบ สมัครเล่นพนันบอลออนไลน์กันได้เลยที่ fifa555 เท่านั้น
แทงบอลเชลซี แทงบอลออนไลน์ กับเราที่ FIFA55
นอกจากนี้เรายังมีเกมคาสิโนหลากหลายมาให้เพื่อนๆ ได้เล่นสนุก หากำไรเข้ากระเป๋ากัน