หากจะพูดถึงแหล่งคาสิโนลำดับต้นๆ ของโลก ที่นักพนันต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจาก Las Vegas แล้ว มาเก๊าก็ถือเป็นแหล่งคาสิโนที่มีประวัติมาอย่างยาวนานแห่งหนึ่งในโลก และมีนักพนันเข้าไปใช้บริการจำนวนมหาศาล แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า คาสิโนมาเก๊ามีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้นั้น เกิดขึ้นมาจากชายหนุ่มผู้อพยพที่ชื่อ สแตนลีย์ โฮ ซะเป็นส่วนใหญ่ ถึงขนาดได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาแห่งคาสิโน และ ราชาบาคาร่า ของโลก
สารบัญ
2. เรื่องราวความรักของสแตนลีย์ โฮ
3. เคล็ดลับความสำเร็จของ สแตนลีย์ โฮ
4. สรุปเรื่องราวชีวิต สแตนลีย์ โฮ
สแตนลีย์ โฮ คือใคร
เป็นชาวจีนฮ่องกงและจีนมาเก๊า เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1921 เป็นเจ้าของบริษัท SJM Holdings ที่มีเวเนเชี่ยน (The Venetian Macao) คาสิโน คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่สุดของมาเก๊า และยังมีธุรกิจด้านความบันเทิง การท่องเที่ยว ด้านการขนส่ง ด้านอสังหาริมทรัพย์ และอีกหลายๆ อย่าง
จุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ สแตนลี่ย์ โฮ
สแตนลีย์ โฮ นั้น เกิดมาในตระกูลที่รํ่ารวยเป็นลำดับต้นๆ ของฮ่องกง โดยมีฐานะเป็นหลานทวดของ Robert Hotung หนึ่งในมหาเศรษฐีของฮ่องกงที่ร่ำรวยจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตระกูลโฮเป็นหนึ่งใน สี่ตระกูลใหญ่ของฮ่องกง ขณะที่อีก 3 ตระกูลได้แก่ ตระกูลลี ตระกูลฮุย และตระกูลลอ
อย่างไรก็ตาม แม้จะเกิดมาในตระกูลรํ่ารวย แต่ชีวิตของเขาก็ไม่ได้สวยหรู เหมือนที่ใครหลายคนคิด เนื่องจากตอนที่เขายังเป็นเด็กนั้น ได้เกิดเหตุการณ์เศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อครอบครัวเขาอย่างมาก หลังพ่อของเขาลงทุนพลาดในตลาดหุ้น จนทำให้ครอบครัวต้องล้มละลาย
พี่ชายทั้งสองคนของเขาไม่สามารถรับกับวิกฤตครั้งนี้ได้ จนต้องฆ่าตัวตาย ก่อนที่พ่อของเขาจะทิ้งครอบครัวไป ตอนนั้น สแตนลีย์ โฮ พึ่งมีอายุเพียง 13 ปี เท่านั้น ยังดีที่ยังมีญาติคอยช่วยเหลือ ทำให้เขายังคงได้เรียนหนังสือต่อไป จนกระทั่งได้เข้ามหาลัยฮ่องกง
แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดขึ้น ญี่ปุ่นยกกองทัพโจมตีฮ่องกง ทำให้โฮต้องเลิกเรียนกลางคัน ด้วยเหตุนี้เองเขาตัดสินใจ ขึ้นเรือข้ามไปยังมาเก๊า ด้วยเงินในกระเป๋าเพียง 10 เหรียญฮ่องกงเท่านั้น โดยหวังไปหาลู่ทางทำงานข้างหน้าแทน เพราะแม้จะเรียนไม่จบ แต่เขาก็สามารถใช้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว
ที่นั้นโฮเริ่มทำงานออฟฟิศในบริษัทนำเข้าส่งออก โดยการลักลอบขนอาหารและสินค้าหรูในยามกลางคืนส่งไปยังจีน และเดินทางไปค้าขายที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ลเป็นประจำ ประกอบกับวาทศิลป์ช่างเจรจาต่อรอง ทำให้เขาสามารถจับเงินล้านได้ด้วยวัยเพียง 24 ปีเท่านั้น ชีวิตจากทายาทมหาเศรษฐีสู่ยาจก และพลิกกลับสู่การเป็นเศรษฐีด้วยตัวเองอีกครั้ง ภายในเวลาไม่กี่ปี ถือเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างมากสำหรับวัยรุ่นคนหนึ่ง
หลังจากทำงานเก็บเงินถึงอายุ 40 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาก็มาถึง เมื่อเขาตัดสินใจก่อตั้งบริษัท STDM ร่วมกับนักธุรกิจคนอื่นๆ และได้เข้าร่วมการประมูลสัมปทานผูกขาดคาสิโน ซึ่งรัฐบาลมาเก๊าเป็นคนออกสัมปทานให้และบริษัทของ Stanley Ho ก็ได้รับชัยชนะหลังได้เงินสนับสนุนจาก Henry Fok โดย STDM ผูกขาดคาสิโนในมาเก๊าเป็นระยะเวลาถึง 40 ปี
และนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นความมั่งคั่งของชายคนนี้ โดย STDM ได้เริ่มนําเอาเกมการพนันสไตล์ตะวันตกเข้ามาเผยแพร่ในมาเก๊า เช่น เกมอย่าง บาคาร่า ที่ทำเงินให้กับเขามหาศาล พร้อมกับการทําให้การเดินทางระหว่างมาเก๊าและฮ่องกงสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อดึงดูดนักเสี่ยงโชคเข้ามา และด้วยการเดินทางที่ทันสมัย ใช้เวลาไม่มากนี้ ทำให้ในแต่ละปีมีนักพนันนับล้านคนหลั่งไหลจากฮ่องกงมาเสี่ยงโชคในมาเก๊าเพิ่มสูงขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ Stanley Ho ยังต่อยอดไปลงทุนในอีกหลายประเทศ ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และโมซัมบิกหรือแม้กระทั่งเกาหลีเหนือ ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปถึงระดับโลก และกลายเป็นมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของเอเชีย ขณะที่ชีวิตส่วนตัวของเขามีภรรยา 4 คนและลูกถึง 17 คน
กลับสู่สารบัญเรื่องราวความรักของสแตนลีย์ โฮ
ในปี 1942 นักธุรกิจหนุ่ม สแตนลีย์ โฮ ก็พิชิตใจ คลีเมนทีนา เลเตา หญิงสาวที่สื่อขนานนามว่าเป็น ผู้หญิงที่สวยที่สุดในมาเก๊า การแต่งงานกับหญิงสาวจากวงสังคมชั้นสูงอย่างคลีเมนทีนา เปิดทางให้กับสแตนลีย์ในการเข้าถึง เครือข่ายคอนเน็กชั่นของผู้มีอำนาจในมาเก๊า
ความรักของคนทั้งคู่นำมาซึ่งพยานรักถึง 4 คน ได้แก่ Jane, Robert, Angela และ Deborah ครอบครัวของสแตนลีย์เติบโตขึ้นพร้อมๆ กับธุรกิจที่ค่อยๆ ก้าวออกจากเงามืด ในปี 1962 สแตนลีย์ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน ได้แก่ Teddy Yip Tak-lei (น้องเขย), Henry Fok Ying-tung (เพื่อนมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง) และ Yip Hon (นักพนัน) ก่อตั้งบริษัท Sociedade de Turismo e Diversões de Macau, S.A.R.L. หรือ STDM เข้าประมูลสัมปทาน
เพื่อทำธุรกิจการพนัน และขายล็อตเตอรี่บนเกาะมาเก๊า สัมปทานนี้ทำให้สแตนลีย์ และหุ้นส่วนผูกขาดธุรกิจกาสิโนยาวนานถึง 40 ปี สร้างความมั่งคั่งให้แก่เขา และครอบครัว รวมถึงสร้างอาณาจักรธุรกิจกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า ลาสเวกัส และแอตแลนติก ซิตี้ ในสหรัฐอเมริกา
ภรรยาคนที่ 2 ของ สแตนลีย์ คือ ลูซินา ลาม (สมรส 1957) ลูซินา เป็นลูกสาวของนายทหารชาวจีนที่ต่อสู้ในสงครามกับญี่ปุ่นสแตนลีย์ และลูซินา มีลูกด้วยกัน 5 คน ได้แก่ Pansy, Daisy, Maisy, Josie และ Lawrence โดยต้องถือว่า ลูกของ บ้านที่ 2 นี้ ได้เชื้อความเป็นนักธุรกิจจากพ่อมาอย่างเต็มที่
โดยเกือบทุกคนมีบทบาทในของธุรกิจครอบครัว ได้แก่ Pansy ลูกสาวคนโตของบ้านที่ 2 ที่ปัจจุบันเข้ามาบริหารงานแทนบิดาในตำแหน่งประธานบริษัท Shun Tak Holdings ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และให้บริหารเรือข้ามฟากระหว่างฮ่องกงกับมาเก๊า รวมถึงยังเป็นผู้ก่อตั้ง MGM China Holdings ผู้ดำเนินการธุรกิจกาสิโน และโรงแรมในมาเก๊า
นอกจากนี้ ในปี 2019 Pansy ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ถือหุ้นอื่นอีกหลายรายของ SJM ส่งผลให้ Pansy มีอำนาจควบคุมกิจการของ SJM Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธุรกิจคาสิโน 20 แห่งของครอบครัวน้องสาวของเธออีก 2 คนคือ Daisy และ Maisy ก็ดำรงตำแหน่งระดับสูงใน SJM Holdings ในขณะที่ Lawrence น้องชายคนเล็กแยกตัวไปทำธุรกิจกาสิโนอีกแห่งหนึ่งภายใต้ชื่อ Melco Resorts & Entertainment Limited โดยมี Josie ที่เรียกตัวเองว่าเป็น แกะดำน้อย เข้าสู่วงการบันเทิง โดยเป็นนักแสดง และนักร้อง
ความรักครั้งที่ 3 กับ อีนา ชาน เป็นผลสืบเนื่องจาก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคลีเมนทีนาภรรยาคนแรก คลีเมนทีนาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรงในโปรตุเกสเมื่อปี 1973 ซึ่งทำให้เธอสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป อีนา ชาน ภรรยาคนที่ 3 เป็นหนึ่งในทีมพยาบาลที่เข้ามาดูแลคลีเมนทีนาในขณะนั้น
วามสัมพันธ์ของสแตนลีย์ และอีนาเริ่มเป็นรูปธรรมเมื่อสแตนลีย์ซื้อคอนโดมิเนียม 2 ห้องให้กับอีนาในย่าน Repulse Bay ในช่วงปี 1980s ทั้งสองคนมีบุตรธิดารวมกัน 3 คนได้แก่ Florinda, Laurinda และ Orlando ภายหลังอีนาเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ STDM บริษัทที่เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์แรกของอาณาจักรธุรกิจกาสิโนของครอบครัวโฮ ผ่านการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Lanceford
ความรักครั้งสุดท้ายของสแตนลีย์เกิดขึ้นกับ แอนเจลา เหลียง หญิงสาวที่เป็นพนักงานดูแลเงินคลังคาสิโนของเขา และเป็นครูพาร์ตไทม์สอนเต้นรำ ทั้งสองพบกันครั้งแรกในงานเต้นรำส่วนตัว และสานต่อความสัมพันธ์จนแต่งงานกันในปี 1988
สแตนลีย์ และแอนเจลามีบุตรธิดาด้วยกันทั้งสิ้น 4 คน ได้แก่ Sabrina, Arnaldo, Mario และ Alice ปัจจุบัน แองเจลาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของ SJM Holdings พร้อมกับดำรงตำแหน่งประธานบริหารร่วมของ SJM Holdings และมีตำแหน่งในสภานิติบัญญัติของมาเก๊าด้วย
เคล็ดลับความสำเร็จของ สแตนลีย์ โฮ
ต้องยอมรับว่าเรื่องราวความสำเร็จของ สแตนลีย์ โฮ นั้น มีประเด็นให้น่าติดตาม และศึกษาอยู่หลายอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีเคล็ดลับที่น่าสนใจรวมอยู่ด้วย วันนี้เราจึงทำการรวบรวมเคล็ดลับความสำเร็จของ สแตนลีย์ โฮ มาฝากให้กับผู้อ่านทุกท่านได้นำไปปรับใช้กัน จะมีเคล็ดลับไหนบ้างไปติดตามพร้อมกันต่อได้เลย
1. สู้ชีวิตเสมอ
แม้เขาประสบปัญหาในชีวิตหลายต่อหลายครั้ง แต่ตัวเขากลับเลือกที่จะสู้กลับมันต่อไป ไม่คิดย่อท้อแม้แต่น้อย แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมาบ้างในอนาคต แถมเงินติดตัวก็ยังมีน้อย แน่นอนว่าใครหลายต่อหลายคนไม่กล้าที่จะทำอะไรบ้าบิ่นแบบชายคนนี้อย่างแน่นอน
2. รู้เขารู้เรา
การทำงานแต่ละอย่างของ สแตนลี่ย์ โฮ นั้น จะมีจุดสำคัญมากๆ อยู่หนึ่งก็คือ ต้องรู้เขา และรู้เราเสมอ คือรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร อยากจะได้สิ่งไหน และผลลัพธ์ที่พวกเขาอยากจะได้อยู่ในลักษณะใด ซึ่งเมื่อเราทราบแล้ว ก็นำสิ่งเหล่านั้นมาจูงใจลูกค้า และเราสามารถจะทำอะไรได้บ้าง และอะไรที่ยังทำไม่ได้ การจัดลำดับนี้จะช่วยให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
3. ธุรกิจแบบครบวงจร
หากมองย้อนไปจริงๆ จะพบว่าเขานั้นระหว่างที่ทำคาสิโนก็ได้ดำเนินธุรกิจด้านอื่นๆ ไปด้วยเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละอย่างก็คอยส่งเสริมสนับสนุนกันเป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง เช่น ธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ธุรกิจการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรือ หรือเฮลิคอปเตอร์ ก็ล้วนมีทั้งหมด นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจของเขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะเงินของนักท่องเที่ยววนเวียนอยู่ในธุรกิจของเขาแทบทั้งหมด
4. ไม่ยุ่งการพนัน
แม้จะทำธุรกิจเกี่ยวกับการพนันแต่ทาง สแตนลี่ย์ โฮ นั้น กลับไม่เคยเล่นการพนันเลย โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีความอดทนมากเพียงพอ และเขาไม่คิดว่าจะทำเงินได้จากการพนัน ซึ่งนั้นแสดงให้เห็นว่า การทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องเริ่มจากสิ่งที่ชอบเสมอไป ก็สามารถที่จะทำให้สำเร็จได้
5. มีอัธยาศัย
ความเป็นกันเองนั้น ทำให้เขารู้จักคนมากมาย และเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน แน่นอนว่าในเรื่องของธุรกิจการได้รู้จักคนเยอะนั้น ย่อมส่งผลดีมากกว่า เพราะจะทำให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว ช่น การได้รับเงินทุนจากบริษัทต่างๆ แถมหากเวลาธุรกิจเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา ก็ช่วยให้สามารถหาทางออกได้ง่ายขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นในตัวของเขานั้นมีมากพอนั่นเอง
กลับสู่สารบัญสรุปเรื่องราวชีวิต สแตนลีย์ โฮ
ถือเป็นเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อไม่น้อยเลย เพราะกว่าจะประสบความสำเร็จได้ ต้องใช้ความสามารถอย่างมาก ยังดีที่เจ้าตัวพอจะมีทุนชีวิตที่ดีอยู่บ้างในวัยเด็ก ทำให้นำไปต่อยอดได้ ประกอบกับความมุ่งมั่น ยอมรับความเสี่ยงได้ และพร้อมทำอะไรที่แปลกใหม่ ส่งผลให้เขากลายมาเป็น สแตนลีย์ โฮ ผู้โด่งดัง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างทุกวันนี้
ปัจจุบันนายสแตนลีย์ โฮ ถือครองทรัพย์สินมากราว 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และประกาศเกษียณตัวเองจากธุรกิจทั้งหมดเมื่อปี 2561 ก่อนหน้าถึงวันเกิดครบรอบ 97 ปี ชีวิตส่วนตัวนายสแตนลีย์ โฮ มีภรรยา 4 คน ลูก 17 คน เขามีภาพลักษณ์มหาเศรษฐีเพลย์บอย รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา ชอบการเต้นรำ ใช้ชีวิตหรูหรา เขาไม่ชอบเล่นการพนัน และไม่เคยคิดร่ำรวยจากการเล่นพนัน เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ว่า นายสแตนลีย์ โฮ เสียชีวิตลงด้วยวัย 98 ปี ที่โรงพยาบาล และสถานพักฟื้นผู้ป่วยเรื้อรังบนเกาะฮ่องกง