ฟรี รวมสูตรบาคาร่าออนไลน์ พร้อมเทคนิคการเล่นพนันแบบเซียน ที่ทำให้คุณรวย https:///category/casino/baccarat/baccarat-trick/ เว็บพนันบอลออนไลน์อันดับ 1 ของเมืองไทย Fri, 17 Jun 2022 10:29:58 +0000 en-US hourly 1 https:///wp-content/uploads/2019/11/Logo-Fifa1-04-100x100.png ฟรี รวมสูตรบาคาร่าออนไลน์ พร้อมเทคนิคการเล่นพนันแบบเซียน ที่ทำให้คุณรวย https:///category/casino/baccarat/baccarat-trick/ 32 32 สูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร ที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะเดิมพันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น https:///formula-baccarat/ Sun, 31 May 2020 12:42:51 +0000 https:///?p=2765 ในการเล่นบาคาร่าออนไลน์ จำเป็นจะต้องมีการใช้แผนทางการเงิน หรือสูตรเดินเงินบาคาร่า เป็นตัวช่วยในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จวันนี้

The post สูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร ที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะเดิมพันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น appeared first on FIFA55 HERO.

]]>
ในการเล่นบาคาร่าออนไลน์ จำเป็นจะต้องมีการใช้แผนทางการเงิน หรือสูตรเดินเงินบาคาร่า เป็นตัวช่วยในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จวันนี้ เราจะมานำเสนอสูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร ที่มาแรงที่สุดในปี 2022 กัน ใครที่แพ้บาคาร่าบ่อยๆ ต้องอ่าน เพราะจะทำให้คุณสามารถเอาชนะเกมบาคาร่าได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม จะมีสูตรอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

สารบัญ

1. สูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร เป็นอย่างไร

2. สูตรบาคาร่าออนไลน์ ลาบูเชอร์ คืออะไร

3. สูตรบาคาร่า paroli

4. สูตรไพ่บาคาร่ากรินด์ คืออะไร

5. สูตรบาคาร่า เดลองเบ คืออะไร

6. สูตรบาคาร่า fibonacci

7. สูตรบาคาร่า อัตราส่วนคงที่

8. สูตรบาคาร่า แทงดัก 4 จุด

9. สูตร บาคาร่า99

10. สูตรบาคาร่า ฮ่องกง

11. บาคาร่าแพ็คเก็ต

12. วิธีเล่นบาคาร่าให้รวย สำหรับคนงบน้อย

13. สรุปสูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร

สูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร เป็นอย่างไร

คือวิธีการเล่นที่ไว้เอาชนะเจ้ามือนั่นเอง โดยไม่ต้องเสียเงินหาสูตร เพราะเรามาแบ่งปันความรู้กันแบบฟรีๆ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นสูตร ที่ทำให้มีโอกาสชนะสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะชนะทุกครั้ง เนื่องจากสูตรแต่ละแบบ มีวิธีใช้แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้นด้วย

ข้อดีในการใช้สูตรบาคาร่าออนไลน์

หลังจากได้ข้อมูลสูตรการเล่นไพ่บาคาร่าไปแล้ว เราจะมาเปิดเผยข้อดีทั้งหมด ที่นักพนันได้อ่านแล้ว อาจจะเปลี่ยนใจนำสูตรเหล่านี้ไปลองใช้

1. ป้องกันความเสี่ยง

ปัจจัยหลักในการใช้สูตรบาคาร่า ก็คงเป็นเพราะอยากลดความเสี่ยงในการเล่นลง เพราะการเล่นแบบไม่มีแบบแผนนั้น โอกาสที่จะเสียเงินยังไงก็มีสูงกว่าอยู่แล้ว มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่เล่นได้ ซึ่งแม้จะไม่ได้สูตร แต่ก็อาจจะมีเทคนิคการเล่นส่วนตัวบางอย่างเข้ามาช่วย

สำหรับนักพนันที่ไม่มีเทคนิค หรือกลยุทธฺเป็นของตัวเอง การนำเอาสูตรบาคาร่าไปใช้ อย่างน้อยมันจะช่วยให้คุณแพ้ยากขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

2. โอกาสทำกำไรมากขึ้น

แน่นอนว่านอกจากจะเป็นการป้องกันความเสี่ยงแล้ว ยังสามารถสร้างโอกาสทำกำไรได้อีกด้วย เหตุนี้เองการใช้สูตรบาคาร่าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยเสริมรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนนำไปใช้อีกที แต่จากสถิติบอกว่าสูตรบาคาร่าต่างๆ มักทำกำไรได้เกิน 50 เปอเซ็นต์จากเงินลงทุนของนักพนันทั้งหมด

3. เจ้ามือจับทางได้ยาก

นักพนันหลายๆ คน ชอบแทงอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ตลอด ทั้งทีบางทีโอกาสที่จะออกอย่างอื่นนั้นมีมากกว่าชัดเจน นั้นเป็นเพราะเขาไม่รู้จักการอ่านเค้าไพ่ ซึ่งทำให้เจ้ามือจับทางได้ง่าย

การแทงแบบปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อยๆ จะทำให้เจ้ามือจับทางได้ยาก ไม่รู้ถึงสิ่งที่เราต้องการเดิมพัน

4. สร้างความมั่นใจ

การใช้สูตรบาคาร่า ช่วยให้คุณจะวิเคราะห์ได้ไวขึ้น และแทงได้ทันเวลา เพราะคุณอย่าลืมว่า เมื่อผ่านไป 1 ตา เค้าไพ่บาคาร่าก็เปลี่ยนแล้ว ดังนั้นรูปแบบการแทงก็จะเปลี่ยนไปอีก นั้นหมายความว่าคุณต้องเลือกวิเคราะห์แทงใหม่ ในทุกๆ ครั้ง ซึ่งตรงนี้การนำสูตรมาใช้จะเห็นผลได้ชัด

กลับสู่สารบัญ

สูตรบาคาร่าออนไลน์ ลาบูเชอร์ คืออะไร

สูตรเดินเงิน สูตรนี้ ต้องกำหนดเป้าหมายไว้ล่วงหน้า โดยยิ่งกำหนดกำไรมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงย่อมมากขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม ถ้ากำหนดกำไรที่ต้องการน้อย ความเสี่ยงก็จะน้อยตามไปด้วย

กฎการใช้งานสูตรลาบูเชอร์

ก่อนที่จะใช้งานสูตรลาบูเชอร์ ให้กำหนดเป้าหมายก่อนการวางเดิมพัน เช่น วันนี้ต้องการทำกำไร 1500 บาท ก็จะต้องแบ่ง 1500 บาท ออกเป็นตัวเลขย่อยๆ ที่ไม่เกิน 10 รอบเดิมพัน โดยเรียงลำดับจากน้อยไปหามาก

  • 100, 200, 300, 400, 500 (รวมกันได้ 1500)

จากเลขด้านบน ผมแบ่ง 1500 บาท กำไร ออกเป็น 5 ตา ด้วยกัน

การเดิมพันแรก

ให้เอาเลขตัวแรก + เลขตัวท้าย = 100+500 = 600 ดังนั้น รอบแรกผมต้องเดิมพัน 600 บาท

  • กรณีที่ผมชนะในรอบแรก ผมจะนำตัวเลขที่ผมเดิมพัน 600 บาท (1 กับ 5) ออกจากชุดตัวเลข ชุดตัวเลขจะเหลือแค่ 200 , 300 , 400 แล้วการเดิมพันครั้งต่อไปต้องนำ 200+400 = 600 บาทไปเดิมพันต่อ

ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าชุดตัวเลขจะหายไปหมด แล้วผมก็จะได้กำไรได้ตามที่ผมกำหนดไว้ในตอนแรก (1500 บาท)

  • กรณีที่ผมแพ้ในรอบแรก ผมต้องนำตัวเลขที่ผมเดิมพัน เลข 6 หน่วย เข้าสู่ชุดตัวเลข จะได้ 100, 200, 300, 400, 500, 600 แล้วเดิมพันครั้งต่อไปต้องนำ 100+600 = 700 บาท

ถ้าคุณชนะวิธีนี้จะทำให้คุณได้รับเงินกำไร ตามเป้าหมายที่กำหนด อย่างรวดเร็ว

วิธีแก้ทางสูตรลาบูเชอร์เมื่อเล่นแพ้

สิ่งที่แย่ที่สุดในการใช้สูตรเดินเงิน คือเวลาที่เล่นแพ้นี่แหละ เพราะมันจะทำให้ตัวเลขถูกเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ วิธีเดียวที่จะทำให้มันลดไปได้ก็คือ ต้องชนะให้ได้เท่านั้น แน่นอนว่าคุณจะต้องเหนื่อยมากขึ้น ในการเอาสิ่งที่เสียไปกลับคืนมา แต่ถ้าไม่อยากเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ก็พอมีวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงอยู่ ด้วยการเพิ่มตัวเลขให้มากขึ้นตั้งแต่แรก

จากตัวอย่างเราจะเล่นทั้งหมด 5 ตา ด้วยชุดตัวเลข 10, 20, 30, 40, 50 เราก็เปลี่ยนมาเป็นเล่น 7 ตา (มันก็ยังไม่เกิน 10 ตา) ด้วยชุดตัวเลข 10, 10, 20, 20, 30, 30, 30 (รวมกันได้ 150 เหมือนเดิม) อาจจะดูเหมือนว่าเราต้องเล่นมากรอบขึ้นก็จริง แต่ถ้าดูให้ดีจะเห็นว่า เดิมพันที่จะใช้ในแต่ละรอบมันน้อยกว่า ความผันผวนลดลง

แต่มันก็จะใช้เวลา หรือจำนวนรอบในการเดิมพันมากขึ้น เพื่อจะให้ได้กำไรตามที่กำหนดเป้าหมายไว้ หรืออาจจะทำให้คุณประสบความเร็จในการแทงบาคาร่ายากขึ้นไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงควรกำหนดชุดตัวเลขให้เหมาะสมก่อนลงเดิมพันทุกครั้ง

สูตรบาคาร่าออนไลน์ ลาบูเชอร์ มีลักษณะอย่างไร

สูตรนี้มักทำงานได้ดีกับเกมที่คุณชนะต่อเนื่องกันในเวลาอันรวดเร็ว ได้กำไรตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ถือว่าจบเกมไม่ต้องลงเดิมพันต่อ หรือเกมที่รอบเดิมพันคุณมีทั้งได้ และเสียในสัดส่วนที่พอๆ กัน ซึ่งสามารถทำกำไรได้ แต่จะดีที่สุดคือคุณต้องเข้าชนะติดๆ กันนั่นเอง

สูตรลาบูเชอร์ทำงานได้ไม่ดีเมื่อใด

สูตรนี้จะไม่เวิร์ค เมื่อคุณแพ้ติดๆ กัน เพราะหากการ แทงบาคาร่า ของคุณออกมาในลักษณะดังกล่าว เท่ากับคุณแพ้รวดมีแต่เสีย คุณจะอยู่ในสถานะหมดตัว ดังนั้นคุณจำเป็นต้องตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ เพื่อความปลอดภัย จะได้ไม่เจ็บตัวมากในการเล่นบาคาร่าออนไลน์

สูตรลาบูเชอร์เหมาะกับนักพนันประเภทใด

สูตรนี้เหมาะกับนักพนัน 3 ประเภทได้แก่

  • นักพนันที่มีเงินทุนสำรองจำนวนมาก ซึ่งสามารถรองรับการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นเยอะๆ ได้
  • นักพนันเก๋าประสบการณ์
  • นักพนันที่ความท้าทาย

สูตรเดินเงินเดิมพัน ลาบูเชอร์ ไม่ใช่สูตรที่ใช้ทำเงินในระยะยาว เหมาะสำหรับการทำเงินโดยเร็ว และผู้ใช้ต้องมีทุนหนา

สูตรบาคาร่าออนไลน์ ลาบูเชอร์ มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร

ข้อดี

  • เข้าใจได้ง่าย และสามารถนำไปใช้งานได้ทันที จะช่วยให้คุณได้กำไรตามเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ในเวลาอันรวดเร็ว เหมาะกับนักพนันที่มีประสบการณ์ในการแทงบาคาร่ามาแล้ว เป็นระยะเวลายาวนาน ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับนักพนันมือใหม่

ข้อเสีย

  • การลงเงินเดิมพันแต่ละครั้ง ไม่ได้เริ่มต้นที่ 1 หน่วย แต่จะเริ่มต้นด้วยหลายหน่วยทันที เพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมายกำไรที่กำหนดไว้
  • ถ้ากำหนดเป้าหมายกำไรไว้เยอะ ก็จะมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นสูตรลาบูเชอร์ควรนำไปใช้สำหรับผู้เล่นที่อยากได้กำไรน้อยๆ ไม่กี่หน่วยก็พอ
  • ในกรณีที่คุณเกิดโชคไม่ดีแพ้ขึ้นมา มันจะทำให้คุณเสียเงินครั้งละมากๆ ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งนั่นอาจส่งผลให้คุณหมดตัวได้ หากคุณไม่ได้กำหนดจุดตัดขาดทุน
  • การจะกำหนดชุดตัวเลขให้เหมาะสม หรือควรเป็นแบบไหนดีนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ตัวช่วยสำคัญที่จำเป็นอย่างยิ่งคือประสบการณ์ของตัวนักพนันเอง
สูตรลาบูเชอร์คืออะไร

สรุปสูตรลาบูเชอร์

อย่างไรก็ตาม การจะใช้สูตรลาบูเชอร์ เราต้องกำหนดค่าตัวเลข และจำนวนรอบที่จะเล่นให้สัมพันธ์กันด้วย อย่าลืมนะครับว่า บาคาร่า ยังมีค่า House Edge อยู่ แม้ว่ามันจะผันผวน และดูเหมือนเราจะได้เปรียบในระยะสั้น แต่ถ้าเล่นกันนานๆ ต่อให้วางเดิมพันน้อยมันก็มีโอกาสที่เราจะเสียให้กับ คาสิโนออนไลน์ ได้มากเช่นกัน

นักพนันทุกท่านต้องตระหนักเสมอว่า สูตรนี้ไม่ได้ช่วยทำเงินในระยะยาว แต่เหมาะสำหรับการทำเงินในระยะสั้นมากกว่า ซึ่งผู้ใช้งานสูตรนี้ต้องมีทุนสูง ชื่นชอบในความเสี่ยง ยินดีรับความเสี่ยงได้แบบไม่เดือดร้อน ถ้าคุณเป็นนักพนันที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ก็สามารถนำสูตรลาบูเชอร์ไปใช้ได้ทันที เรามั่นใจว่าคุณจะพิชิตกำไรตามเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ ภายในเวลาอันรวดเร็วอย่างแน่นอน

กลับสู่สารบัญ

สูตรบาคาร่า paroli

สูตร paroli คือ กลยุทธ์ หรือเทคนิคการเดินเงิน ที่ใช้เพื่อการเล่นพนันอย่างต่อเนื่อง ควบคุมความเสี่ยงในการเล่นได้ และบริหารการเดินเงินได้เป็นอย่างดี ระบบการเดินเงินนี้ถูกนำไปใช้อย่างประสบความสำเร็จมากมาย ระบบการเดินเงิน Paroli ใช้ได้ผลดีกับทุกเกม คาสิโนออนไลน์ เช่น บาคาร่าออนไลน์ และรูเล็ตออนไลน์ และยังสามารถนำไปใช้ได้กับเกมการพนันอื่นๆ ที่มีอัตราการได้เสีย เท่ากับ 1:1 เช่น เกมไฮโล , โป๊กเกอร์ (ลำดับไพ่โป๊กเกอร์) , แบล็คแจ็ค , โยนเหรียญ , ดราก้อน ไทเกอร์ เป็นต้น

จุดประสงค์ของการวางเดิมพันแบบ Paroli คือ การเอาชนะเกมเดิมพันให้ได้ 3 ครั้ง ต่อ 1 รอบ โดยเพิ่มการวางเดิมพันในแต่ละครั้งขึ้นไปเป็น 1 เท่าตัว ใช้ได้ดีกับการเล่น บาคาร่าออนไลน์ เริ่มต้นจาก กำหนดการวางเงินเดิมพัน 1 หน่วย ในทุกๆ ครั้งที่ชนะเดิมพัน จะเพิ่มการวางเงินเดิมพันขึ้น 1 เท่าของจำนวนเงินที่วางเดิมพัน แต่ถ้าเดิมพันแพ้ การวางเงินเดิมพันในตาต่อไปจะเท่ากับ 1 หน่วยเช่นเดิม ซึ่งนักเดิมพันจะวางเงินเดิมพันในรูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่มีการเปลี่ยนหน่วยการวางเดิมพัน จนกว่าจะชนะในตานั้น

ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญ คือ นักเดิมพันต้องกำหนด จำนวนเงินต่อ 1 หน่วย เพื่อใช้ในการวางเดิมพัน ซึ่งควรกำหนดในมูลค่าที่เหมาะสม ไม่ควรตั้งไว้สูงเกินไป และต้องกำหนดรอบการวางเดิมพัน ซึ่งใน 1 รอบ มีการเดิมพัน 3 ตา เพื่อให้มีเป้าหมายที่ชัดเจน และลดความเสี่ยงในการเดิมพัน

ยกตัวอย่าง

1 รอบ เท่ากับ 3 ตา นักเดิมพันวางเงินเดิมพันจำนวน 1 หน่วย ซึ่งเท่ากับ 100 บาท

ตาที่ 1 วางเงินเดิมพัน 1 หน่วย หรือ 100 บาท

  • หากการเดิมพันชนะ จะต้องวางเดิมเพิ่มขึ้นอีก 1 หน่วย ในตาต่อไป รวมเป็น 2 หน่วย หรือ 200 บาท
  • หากการเดิมพันแพ้ ให้วางที่ 1 หน่วย หรือ 100 บาท ในตาต่อไป

ตาที่ 2 วางเงินเดิมพันในตาที่ 2 (สมมุติชนะ ลงเดิมพัน 2 หน่วย หรือ 200 บาท )

  • หากการเดินพันแพ้ ให้ลดการเดิมพันกลับเป็น 1 หน่วย หรือ 100 บาท เหมือนเดิม
  • หากการเดิมพันชนะ ให้เพิ่มการเดิมพัน หนึ่งเท่า เป็น 4 หน่วย หรือ 400 บาท

ตาที่ 3 วางเดิมพันในตาที่ 3 (สมมุติชนะ ลงเดิมพัน 4 หน่วย หรือ 400 บาท)

  • หาก แพ้ ในตานี้ ให้ลดการเดิมพันกลับเป็น 1 หน่วยหรือ 100 บาท เหมือนเดิม และรอวางเดิมพัน โดยการขึ้นรอบใหม่
  • หากการเดิมพันที่ 4 หน่วย หรือ 400 บาท ชนะ ให้เก็บเงินกำไรที่ได้ และวางเดิมพันกลับเป็น 1 หน่วยหรือ 100 บาท เหมือนเดิม และรอลงเดิมพัน โดยการขึ้นรอบใหม่
  • ไม่ว่าตาสุดท้ายจะขาดทุน หรือได้กำไร ให้จดบันทึกดูความเปลี่ยนแปลงของการใช้เทคนิคการเดิมพันนี้

ลองดูที่ตารางตัวอย่างต่อไปนี้

จากการพิสูจน์ สูตรเดินเงิน โดยกำหนดให้ มีการเดิมพัน 7 รอบ รวมทั้งหมด 21 ตา ในแต่ละรูปแบบการวางเดิมพันที่ไม่ซ้ำกัน ผลที่ได้รับออกมาคือ

จากผลตารางข้างบน แสดงให้เห็นว่า หากคุณชนะทั้ง 3 ตา ใน 1 รอบ ผลกำไรที่คุณจะได้รับนั้นมากถึง 7 หน่วย หรือ 700 บาท (หากคุณแทน 100 บาท เท่ากับ 1 หน่วย) แต่ถ้าคุณแพ้ทั้งหมดใน 1 รอบ คุณจะเสียเงินทั้งหมดเพียงแค่ 3 หน่วย หรือ 300 บาท เท่านั้น

เทคนิคนี้ เหมาะสำหรับ ผู้เล่นที่สามารถรับความเสี่ยงได้ระดับ ต่ำ-ปานกลาง

ข้อดีของสูตรบาคาร่า paroli

ถึงตรงนี้ทุกคนคงอยากรู้แล้วว่า สูตรเดินเงิน Paroli มีข้อดีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

  1. มีการกำหนดที่ชัดเจนว่าแต่ละรอบ (Cycle) สิ้นสุดแค่ 3 รอบเดิมพันเท่านั้น เมื่อครบแล้วให้เริ่มนับ 1 รอบใหม่
  2. ถ้าคุณเสียเงินในแต่ละรอบ คุณจะเสียแค่ 1 หน่วยเท่านั้น เพราะเงินที่คุณลงเล่นในรอบเดิมพันที่ 2 และ 3 นั่นคือ เงินคุณเองแค่ 1 หน่วย + กำไรที่ได้มา คุณกำลังเอากำไรไปเล่น ถ้ากำไรจะเสียก็ไม่เป็นไร
  3. มีโอกาสทำเงินก้อนใหญ่ 7 หน่วย ถ้าสามารถชนะต่อเนื่องได้ 3 รอบเดิมพัน
  4. ความเสี่ยงที่จะเสียเงินต่ำ เพราะส่วนใหญ่จะนำกำไรไปเล่น

เวลาจะใช้สูตรบาคาร่า palori ควรตั้งเป้าไว้ที่ชนะ 3 ตา ติดกัน ถ้าทำไม่ได้แบบนี้ถือว่ายังไม่ชนะ เริ่มต้นลง 1 บาท ได้กำไรกลับมา เอากำไร 1 กับทุน 1 ลงเล่นต่อเลยในตาถัดไป ถ้าชนะติดกันได้ 3 ตา รับรางวัลใหญ่ 7 บาทไปเลย แต่ถ้าแพ้ ก็แค่เสียเงินไปแค่ 1 บาทเท่านั้นเอง

ข้อเสียของสูตรบาคาร่า paroli

แม้ว่าการเล่นของคุณโดยรวมคุณจะดูชนะมากกว่าแพ้ แต่เมื่อรวมเงิน กำไร/ขาดทุน ออกมาแล้ว อาจจะติดลบก็เป็นได้ นั่นก็เพราะเราไม่ได้ชนะติดกัน 3 ตา บ่อยๆ หากไม่ชนะติดกัน 3 ตา พาโรลีจะไม่ทำเงิน

ถ้าพิจารณาจากตารางด้านบน อธิบายสูตรบาคาร่า paroli แต่ละ Cycle ได้ดังนี้

  • ถ้าชนะติดกัน 3 ครั้งถือว่าจบรอบ จะได้กำไร 7 หน่วย
  • แต่ถ้าแพ้ ไม่ได้ตามเป้าหมาย ถือว่า ขาดทุน 1 หน่วย

แม้ว่าการเดิมพัน 9 ครั้งตามตารางด้านบนจะมีการชนะมากกว่าแพ้ โดยชนะ 6 ครั้ง แพ้ 3 ครั้ง ถ้าใช้สูตรอื่นๆ คงจะได้กำไรแล้ว แต่ถ้าเป็นสูตรบาคาร่า Paroli คุณจะขาดทุน 3 หน่วย พิจารณาจากตารางด้านบน ถ้าคุณเล่นแพ้มากกว่าชนะ โดยแพ้ 7 ครั้ง ชนะ 3 ครั้ง คุณก็ยังจะไม่ได้กำไรจากสูตรบาคาร่า Paroli จากตารางด้านบนติดลบเพียงแค่ 6 หน่วยเท่านั้น และคุณก็ยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเงินติดลบ ให้กลายเป็นติดบวกได้อยู่

หลังจากรอบเดิมพันที่ 10 เป็นต้นไป สมมติคุณชนะต่อเนื่องในรอบเดิมพันที่ 11, 12 และ 13 นั่นหมายความว่าคุณจะได้เงินกลับมา 7 หน่วย ผลคือคุณจะกำไรติดบวกทันที จาก -7 กลายเป็นเท่าทุนทันที สูตรนี้เวลาลบจะลบครั้งละ 1 หน่วย แต่เวลากำไรจะกำไรครั้งละ 7 (3 ครั้งติดต่อกัน) การติดลบของสูตรบาคาร่า Paroli ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ถ้าเป็นสูตรเดินเงิน Martingale คุณอาจจะหมดตัวได้ในพริบตา เมื่อทุนของคุณหมดเกลี้ยง มาพิจารณากันที่ตารางสุดท้ายกันเลย

ยกตัวอย่างเช่นมีเงินอยู่ 30 หน่วย

  • กรณี สูตรบาคาร่า paroli คุณแพ้ติดกัน 7 ครั้ง คุณก็เสียเงินไปแค่ 7 หน่วย เงินคุณยังเหลือ 23 หน่วย ซึ่งสามารถนำไปลงเดิมพันต่อได้
  • กรณี Martingale คุณแพ้ต่อเนื่อง 5 รอบเดิมพัน คุณจะหมดตัวทันที (-1-2-3-8-16= -30)

วิเคราะห์สูตรบาคาร่า paroli

สูตรบาคาร่า paroli ทำงานได้ดีเมื่อใด

  • ชนะติดกัน เช่น ติดกัน 3 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง
  • ชนะบ่อยมาก แพ้น้อยมาก หรือแทบจะไม่ค่อยแพ้เลย

สูตรบาคาร่า paroli ทำงานได้ไม่ดีเมื่อใด

  • ชนะบ้างแพ้บ้างสลับกันไป แต่ภาพรวมชนะ ต้องมากกว่าเล็กน้อย
  • แพ้บ้างชนะบ้างสลับกันไป แต่ภาพรวมแพ้ ต้องมากกว่าเล็กน้อย
  • แพ้แบบต่อเนื่องติดกัน 2-3 ครั้ง
  • แพ้ติดกันแบบถี่ๆ ชนะน้อยมาก หรือแทบจะไม่ค่อยชนะเลย

ภาพรวมของสูตรเดินเงิน paroli

สำหรับสูตรบาคาร่า paroli ตัวสูตรจะให้เงินออกมาก้อนใหญ่ครั้งละ 7 หน่วย โดยจะได้เฉพาะกรณีที่ชนะต่อเนื่อง 3 ครั้งเท่านั้น นอกนั้นจะไม่ได้เงิน และจะเสียครั้งละ 1 หน่วยไปเรื่อยๆ สรุปแล้วจะได้กำไรกลับมาเล็กน้อย แม้จะไม่มากแต่ก็ไม่ขาดทุน ดังนั้นสูตรนี้จึงเวิร์คกว่าสูตร Martingale อย่างแน่นอน

ความเสี่ยงของสูตรบาคาร่า paroli

ตามที่ได้อธิบายไปในภาพรวมของสูตรบาคาร่า paroli ทำให้สูตรนี้เป็นสูตรเดินเงินที่มีความเสี่ยง น้อย

สรุปสูตรบาคาร่า paroli

สูตรเดินเงินนี้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง เพราะมันจะช่วยให้เงินของคุณโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ดีกว่าการใช้สูตรเดินเงิน Martingale อย่างแน่นอน

กลับสู่สารบัญ

สูตรไพ่บาคาร่ากรินด์ คืออะไร

เป็นสูตรการเดินเงินอย่างง่าย ที่ใช้วางแผนในการแทงบาคาร่า เพราะเกมเดิมพันบาคาร่ามีรูปแบบการโอกาสการ ได้-เสีย เกิดขึ้นพอๆ กัน นอกจากนี้ผลตอบแทนทั้งสองฝั่ง ถ้าเราลงเดิมพันก็ใกล้เคียงกันอย่างมาก โดยฝั่งเจ้ามือ (Banker) ชนะได้ 0.95 เท่า ขณะที่ฝั่งผู้เล่น (Player) ชนะจะได้ 1 เท่า

วิธีการใช้งาน สูตรไพ่บาคาร่ากรินด์

มีกฎเกณฑ์ที่สำคัญ 3 ข้อดังต่อไปนี้

1. การเดิมพันนับเป็นรอบ (Cycle) โดยแต่ละรอบเดิมพันจะจบได้ ต้องมีกำไร เท่ากับ 1 หน่วยเท่านั้น มากกว่านั้นไม่ได้ กำไรจะเป็น 2, 3… หน่วยไม่ได้ ตัวอย่างเช่น คุณลงเดิมพันหน่วยละ 5 บาท (1 หน่วย) ถ้าคุณชนะในรอบแรก คุณจะได้ประมาณ 5 บาท (1 หน่วย) กลับมา ซึ่งหมายความว่าคุณจบรอบเรียบร้อยแล้ว

การเดิมพันแต่ละรอบควรมีมูลค่าต่อหน่วยเท่ากัน ตัวอย่างเช่น 1 หน่วย เท่ากับ 5 บาท ก็ให้เท่านี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหยุดเล่น ไม่แนะนำให้เปลี่ยนมูลค่าต่อหน่วยระหว่างเล่นเด็ดขาด

2. ในกรณีที่ลงเดิมพันแล้วชนะ เราจะเพิ่มหน่วยเดิมพันทีละ 1 หน่วย หากพบว่าถ้าเพิ่มแล้วรอบเดิมพันต่อไปชนะ มันจะได้กำไรเกิน 1 ก็ให้คงหน่วยเดิมพันไว้เท่าเดิม ไม่ต้องเพิ่ม

3. ในกรณีที่ลงเดิมพันแล้วแพ้ ให้เราคงหน่วยเดิมพันไว้เท่าเดิม

การเดิมพัน โดยใช้สูตรไพ่บาคาร่ากรินด์

กำหนดให้ 1 หน่วยเดิมพันของคุณ เท่ากับ 10 บาท

  • คุณลงเดิมพันรอบที่ 1 เท่ากับ 10 บาท
  • ในกรณีที่ชนะ คุณจะได้เงินทุนกลับมา พร้อมด้วยกำไร 10 บาท เป็นอันว่าจบรอบ รอบเดิมพันถัดไปให้เริ่มนับรอบใหม่ทันที
  • ในกรณีที่แพ้ คุณก็ต้องลงเดิมพันต่อไป ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม ซึ่งเท่ากับรอบที่แพ้

ตัวอย่างการเดิมพัน โดยใช้สูตรไพ่บาคาร่ากรินด์ ที่ถูกต้อง

การเดิมพันของคุณจะเรียงจากซ้ายไปขวา (รอบที่ 1-12)

อธิบายตาราง (สมมติ 1 หน่วยเดิมพัน เท่ากับ 1 บาท)

  1. รอบที่ 1 เริ่มรอบใหม่ Cycle1 คุณลงเดิมพัน 1 บาท ผลออกมาคุณแพ้ คุณขาดทุน 1 บาท รอบต่อไปให้ลงเดิมพันเท่าเดิมคือ 1 บาท
  2. รอบที่ 2 คุณยังอยู่ใน Cycle1 คุณลงเดิมพัน 1 บาท ผลออกมาแพ้อีก ขาดทุนเพิ่มอีก 1 บาท รวมกันขาดทุนสะสม -2 บาท รอบต่อไปก็ให้ลงเดิมพันยอดเท่าเดิมคือ 1 บาท
  3. รอบที่ 3 คุณลงเดิมพัน 1 บาท ผลออกมาชนะ คุณได้กำไรมา 1 บาท ทำให้ยอดขาดทุนสะสมลดลงเหลือแค่ -1 บาท เพราะรอบนี้คุณชนะ คุณจึงต้องเพิ่มเงินเดิมพันอีก 1 บาทในรอบเดิมพันถัดไป
  4. รอบที่ 4 คุณลงเดิมพัน 2 บาท ผลออกมาแพ้ คุณจึงขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก 2 บาท ทำให้ยอดขาดทุนสะสมรวมคือ -3 บาท คุณแพ้รอบต่อไป คุณจึงลงเดิมพันเท่าเดิมเหมือนกับรอบนี้
  5. รอบที่ 5 คุณลงเดิมพัน 2 บาท ผลออกมาชนะ ได้กำไร 2 บาท ทำให้ขาดทุนน้อยลง รวมยอดขาดทุนสะสมเท่ากับ -1 บาท รอบเดิมพันต่อไป จริงๆแล้วคุณต้องเพิ่มเงินอีก 1 บาท เพราะรอบนี้คุณชนะ แต่สำหรับกฎการใช้สูตรกรินด์ ระบุไว้ว่า หากเพิ่มแล้วรอบต่อไปผลออกมาคุณชนะ กำไรมันจะเกิน 1 บาท ดังนั้นรอบเดิมพันต่อไป (รอบที่ 6) คุณจะไม่เพิ่มเงินเดิมพัน
  6. รอบที่ 6 คุณลงเดิมพันไปเท่าเดิมคือ 2 บาท (กฎของสูตรกรินด์ไม่ให้เพิ่มเงิน เพราะหากชนะกำไรจะมากกว่า 1 บาท) และเมื่อคุณชนะ คุณจึงได้กำไรกลับมา 2 บาท รอบนี้จากที่คุณเคยขาดทุน -1 บาท ในรอบที่ 5 คุณจะได้เงินเป็นบวก กำไรเท่ากับ 1 บาท รอบเดิมพันนี้จึงสิ้นสุดเท่านี้
  7. รอบที่ 6 ให้เริ่มต้นลงเดิมพันใหม่ด้วยยอดเงิน 1 บาท เป็นการวนกลับไปเริ่มรอบใหม่อีกครั้ง

หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมในรอบเดิมพันที่ 6 ไม่ลงเดิมพัน 3 บาทไปเลย เพิ่มหน่วยให้เยอะขึ้น จะได้กำไรมากขึ้น เราจะอธิบายต่อให้เข้าใจดังนี้

สมมติว่าในรอบเดิมพันที่ 6 คุณลงเดิมพันไป 3 บาท ผลออกมาชนะ คุณจะได้เงินกลับมา 3 บาท ทำให้ยอดขาดทุนสะสมของคุณไม่มีอีกแล้ว เพราะมันได้แปรสภาพไปเป็นกำไรเท่ากับ 2 บาท ซึ่งอยากจะบอกว่าสูตรกรินด์ที่ถูกต้องคือ แต่ละ Cycle ต้องมีกำไรแค่ 1 หน่วยเท่านั้น

เมื่อได้ดูตัวอย่างการเดิมพัน โดยใช้สูตรไพ่บาคาร่ากรินด์ที่ถูกต้องไปแล้ว เราก็จะพาไปดูตัวอย่างการเดิมพันโดยใช้สูตรนี้อย่างผิดวิธีกันบ้าง รายละเอียดตามตารางด้านล่างนี้

ตารางแสดงการใช้สูตรไพ่บาคาร่ากรินด์ ที่ผิดวิธี

สังเกตในรอบเดิมพันที่ 5 ผลออกมาคือคุณชนะ แต่คุณไปเพิ่มยอดเดิมพันอีก 1 หน่วยในรอบถัดไป

ถ้าผลออกมาชนะ คุณจะได้กำไรมา 3 บาท เมื่อหักลบกลบหนี้ กำไรขาดทุนสะสมของคุณจะเท่ากับ 2 บาท (รอบเดิมพันที่ 5 ขาดทุนอยู่ 1 บาท ในรอบเดิมพันที่ 6 ได้กำไร 3 บาท รวมแล้วกำไรขาดทุนสะสมเท่ากับ +2 บาท) แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อคุณแพ้ในรอบเดิมพันที่ 6,7,8 คุณเริ่มติดลบเยอะขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่สามารถกลับสู่เกมได้ แม้ว่าจะชนะในรอบเดิมพันที่ 9 เพราะยอดติดลบจากการแพ้ติดต่อกันนั้นเยอะเกินไป

อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของ สูตรเล่นบาคาร่ากรินด์ ที่จะต้องเป็นกำไร 1 หน่วยเท่านั้น เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เพื่อเอาไว้ป้องกันกรณีโชคร้ายแพ้ติดๆ กัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นการวางแผนใช้งานสูตรกรินด์อย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่นบาคาร่าได้ไม่ยาก

วิเคราะห์ สูตรไพ่บาคาร่ากรินด์

สูตรกรินด์เหมาะกับสถานการณ์ใด

  • ชนะบ้างแพ้บ้างสลับกันไป แต่ภาพรวมต้องออกชนะมากกว่าเล็กน้อย
  • ชนะต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ชนะติดต่อกัน 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้งก็ได้
  • ชนะแบบยาวไป ผลออกมาแทบจะไม่แพ้เลย

สูตรกรินด์ไม่เหมาะในสถานการณ์ใด

  • แพ้บ้างชนะบ้างสลับกันไป แต่ภาพรวมออกแพ้มากกว่าเล็กน้อย
  • แพ้ต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น แพ้ติดต่อกัน 3 ครั้ง 2 ครั้งบ้าง (ติดลบไม่ค่อยเยอะ)
  • แพ้แบบยาวๆ ไป (กรณีนี้จะทำให้ติดลบเยอะ)

ภาพรวมของสูตรไพ่บาคาร่ากรินด์

หลังจากลองใช้งานสูตรกรินด์ ภาพรวมจากการเล่นที่เกิดขึ้นคือ ให้ผลลัพท์เป็นกำไรคงที่ไป ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละ 1 หน่วย ในกรณีที่เสียก็เสียค่อนข้างน้อย นักพนันที่อยากได้เงินก้อนโตในทีเดียว ไม่แนะนำให้ใช้สูตรนี้ และที่สำคัญเมื่อเสียจนถึงลิมิตที่ตั้งไว้แล้ว ก็ให้หยุดเล่น ค่อยไปเริ่มเล่นใหม่ในวันต่อไป

ความเสี่ยงของสูตรกรินด์ บาคาร่าสูตรกรินด์ เป็นสูตรเดินเงินที่มีความเสี่ยงในระดับ “น้อย” (เสี่ยง 2/5)

สรุปสูตรไพ่บาคาร่ากรินด์

ขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า กำไรต้อง 1 หน่วยเท่านั้น นี่คือจุดสำคัญของบาคาร่าสูตรกรินด์ ที่ถูกต้อง ถ้าหวังจะได้เงินก้อนใหญ่ โดยใช้สูตรกรินด์ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะมันจะทำให้คุณหมดตัวได้ ต้องเล่นอย่างมีสติ วางแผนให้รัดกุมรอบคอม อย่าโลภมาก และรู้จักพอให้เป็น

กลับสู่สารบัญ

สูตรบาคาร่า เดลองเบ คืออะไร

มาจากภาษาฝรั่งเศส เป็นสูตรเดินเงินบาคาร่า ที่มีลักษณะก้าวหน้าเชิงลบ อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ เมื่อคุณแพ้ ให้คุณเพิ่มเงินเดิมพันมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อคุณชนะ ให้ลดเงินเดิมพันลงเรื่อยๆ ต้นกำเนิดของสูตร มาจากการคิดค้นของนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสนามว่า Rond d’Alembert

ซึ่งสูตรบาราค่าเดลองเบ จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ได้จริง ก็ต่อเมื่อ เจอเกมเดิมพันที่มีโอกาสความน่าจะเป็น 50-50 ใกล้เคียงกับสูตรเดินเงิน 1324 นอกจากนี้ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้สูตร เดลองเบ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก็คือต้องเป็นเกมที่ทำกำไรได้เป็นเท่าตัวเมื่อชนะ

สูตรบาคาร่า เดลองเบ ใช้อย่างไร

วิธีใช้สูตรเดลองเบ นั้นไม่ยากอย่างที่คิด ผมขอยกตัวอย่างเป็น 2 สถานการณ์เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นดังนี้

เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อเล่นแล้วแพ้ติดต่อกัน

หากเจอเหตุการณ์นี้ให้วางเดิมพันเพิ่มขึ้นตาละ 1 หน่วยลงทุน ( 1 หน่วยจะกี่บาทก็ได้)

  • รอบที่ 1 วางเดิมพัน 1 หน่วย ผลออกมาคือแพ้
  • รอบที่ 2 วางเดิมพัน 2 หน่วย ผลออกมาคือแพ้
  • รอบที่ 3 วางเดิมพัน 3 หน่วย ผลออกมาคือแพ้
  • รอบที่ 4 วางเดิมพัน 4 หน่วย ผลออกมาคือแพ้
  • รอบที่ 5 วางเดิมพัน 5 หน่วย (ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะชนะ)

เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อเล่นแล้วแพ้ชนะคละกันไป

โดยเมื่อแพ้เราจะเพิ่มหน่วยลงทุนครั้งละ 1 หน่วยเหมือนเดิม ขณะเดียวกันถ้าเกิดชนะขึ้นมาเราก็จะลดหน่วยลงทุนตาละ 1 หน่วย

  • รอบที่ 1 วางเดิมพัน 1 หน่วย ผลออกมาคือแพ้
  • รอบที่ 2 วางเดิมพัน 2 หน่วย ก็ยังแพ้เหมือนเดิม
  • รอบที่ 3 วางเดิมพัน 3 หน่วย รอบนี้ชนะ รอบหน้าเราจะลดเดิมพัน
  • รอบที่ 4 วางเดิมพัน 2 หน่วย กลับมาแพ้อีก รอบหน้าเพิ่มเดิมพัน
  • รอบที่ 5 วางเดิมพัน 3 หน่วย ชนะ
  • รอบที่ 6 วางเดิมพัน 2 หน่วย ชนะติดกันอีกแล้ว
  • รอบที่ 7 วางเดิมพัน 1 หน่วย ก็ชนะอีก

เหตุการณ์พิเศษขยายเดิมพัน

วิธีนี้จะต่างจากเหตุการณ์ข้างต้นคือ จากเพิ่มเดิมพันทีละหน่วยเมื่อแพ้ ลดเดิมพันทีละหน่วยเมื่อชนะ เราจะปรับมาเป็นเพิ่มเดิมพัน 1 หน่วย ต่อ 3 ตาที่แพ้ และลดเดิมพัน 1 หน่วย ต่อ 3 ตาที่ชนะ

  • รอบที่ 1 วางเดิมพัน 2 หน่วย แพ้ รอบต่อไปยังไม่เพิ่มเดิมพันจนกว่าจะแพ้ครบ 3 ตา
  • รอบที่ 2 วางเดิมพัน 2 หน่วย แพ้อีก
  • รอบที่ 3 วางเดิมพัน 2 หน่วย แพ้อีกครั้ง รอบต่อไปเราจะเพิ่มเดิมพันอีก 1 หน่วย
  • รอบที่ 4 วางเดิมพัน 3 หน่วย ก็ยังแพ้อีก
  • รอบที่ 5 วางเดิมพัน 3 หน่วย คราวนี้ชนะ รอบหน้าลดเดิมพัน
  • รอบที่ 6 วางเดิมพัน 2 หน่วย ชนะอีก รอบต่อไปก็วาง 2 หน่วยไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะชนะครบ 3 ตา
  • รอบที่ 7 วางเดิมพัน 2 หน่วย ชนะอีกแล้ว
  • รอบที่ 8 วางเดิมพัน 2 หน่วย ก็ยังชนะอีก
  • รอบที่ 9 วางเดิมพัน 1 หน่วย

ทำวนไปแบบนี้เรื่อย ๆ

วิเคราะห์สูตรบาคาร่า เดลองเบ

สูตรเดลองเบทำงานได้ดีเมื่อใด

  1. เมื่อชนะบ่อยมาก แพ้น้อยมาก หรือแทบจะไม่แพ้เลย
  2. เมื่อผลออกมาชนะต่อเนื่อง 3 ครั้งบ้าง 2 ครั้งบ้าง
  3. เมื่อผลออกมาแพ้บ้างชนะบ้างสลับกันไป โดยชนะมากกว่าเล็กน้อย หรือแพ้มากกว่าชนะซักหน่อยก็ได้

เงื่อนไขทั้ง 3 สถานการณ์ข้างต้น จะทำให้เราได้เงินกลับมานิดหน่อย แต่ก็ได้แบบเรื่อยๆ

สูตรเดลองเบทำงานได้ไม่ดีเมื่อใด

  1. เมื่อผลออกมาแพ้บ่อยมาก ชนะน้อยมาก หรือแทบจะไม่ชนะเลย
  2. เมื่อผลออกมาแพ้ต่อเนื่องติดต่อกัน 3 ครั้งบ้าง 2 ครั้งบ้าง

ภาพรวมของสูตรบาคาร่า เดลองเบ

เป็นสูตรเดินเงินบาคาร่าที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เหมือนบางสูตร มีความเสถียร ได้เงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในลักษณะคงที่ ถ้าไม่โชคร้ายแพ้บ่อยมากๆ หรือแทบจะไม่ชนะเลย

ความเสี่ยงของสูตรบาคาร่า เดลองเบ

สูตรเดินเงินเดลองเบ เหมาะกับนักพนันทุกคนที่ชื่นชอบในความเสี่ยง ระดับกลาง (เสี่ยง 3/5) โอกาสชนะได้เงินเข้ากระเป๋าเกิดขึ้นเรื่อยๆ แม้เงินที่ได้มาจะไม่เยอะ แต่ก็ได้มากกว่าเสีย

การพนันคือการลงทุนประเภทหนึ่ง ซึ่งทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เมื่อตัดสินใจลงสู่สนามเดิมพันก็ต้องยอมรับความเสี่ยงให้ได้ เสี่ยงมาก หรือเสี่ยงน้อย ขึ้นอยู่กับสูตรเดินเงินที่เลือกใช้

บาคาร่าสูตรมาร์ติ้งเกล

อย่างที่ได้บอกไปว่า สูตรเดินเงินเดลองเบมีความใกล้เคียงกับสูตรมาร์ติ้งเกล แต่มีจุดแตกต่างนั้น ก่อนที่เราจะไปเปรียบเทียบสูตรเดินเงินบาคาร่าทั้งสองสูตรนี้ มาทำความรู้จักบาคาร่าสูตรมาร์ติ้งเกลกันก่อนครับ

บาคาร่าสูตรมาร์ติ้งเกล อธิบายง่ายๆ คือ ถ้าคุณแพ้ คุณก็ลงเดิมพันเพิ่มเป็นสองเท่าไปเรื่อยๆ ถ้าคุณชนะ คุณก็จะได้เงินกลับคืนมาทั้งหมด ความสุ่มเสี่ยงของการใช้งานสูตรนี้คือ ถ้าคุณแพ้ต่อเนื่องติดกันหลายๆ รอบเดิมพัน และเงินเดิมพันสำรองมีไม่มากพอ นั่นอาจทำให้คุณหมดตัวได้ เพราะสูตรมาร์ติ้งเกล คือถ้าแพ้แล้วให้ลงเงินเดิมพันสองเท่าในรอบเดิมพันถัดไป

1, 2, 4, 8, 16, 32, …

จากลำดับการลงเดิมพันด้านบน ในกรณีที่คุณลงเดิมพันรอบละ 100 บาท รอบถัดไปก็ 200 บาท ต่อไปก็ 400 บาท, 800 บาท, 1,600 บาท, 3,200 บาท ถ้าโชคร้ายเสียหมดทุกรอบ ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นมีน้อยมาก แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงควรระวังให้ดีทุกครั้งเมื่อใช้งานสูตรมาร์ติ้งเกล

สูตรบาคาร่า เดลองเบ กับ Martingale อันไหนดีกว่ากัน

ถ้าจะให้ฟันธงมันก็คงลำบาก แต่ผมจะสรุปสั้นๆ ไว้ให้ดังนี้

สูตร เดลองเบ กับ martingale

สูตรบาคาร่า martingale จะใช้วิธีการเพิ่มเดิมพันเป็น 2 เท่าเมื่อเราแพ้ และเพิ่มไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะแล้วค่อยมานับหนึ่งใหม่ สูตรนี้จะเน้นที่การดึงเงินที่เสียไปกลับคืนมาทั้งหมด พร้อมกับกำไรอีก 1 หน่วย

การที่จะใช้สูตรนี้ได้ต้องมีเงินสำรองไว้จำนวนมาก เพื่อรอจังหวะดึงเงินคืน ไม่เช่นนั้นอาจต้องทุนหมดก่อน

ทางด้าน สูตรบาคาร่า เดลองเบ จะเน้นความสมดุล ค่อยเป็นค่อยไป เวลาแพ้ก็เพิ่มเดิมพันแค่หน่วยเดียว เมื่อชนะก็ลดเดิมพันแค่หน่วยเดียวเหมือนกัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสูตรไหนถ้าใช้งานได้อย่างถูกต้อง ก็สามารถทำเงินจาก คาสิโนออนไลน์ ได้แน่นอน

สรุปบาคาร่า สูตรเดลองเบ

สูตรเดลองเบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสูตรเดินเงินบาคาร่าที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และใช้ได้จริง ในวงการบาคาร่าออนไลน์ เพราะเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มีความเสถียร แม้จะได้เงินไม่มาก แต่ได้เงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในลักษณะคงที่ ความเสี่ยงถือว่าอยู่ในระดับกลาง หวังว่านักพนันที่ชื่นชอบการเล่นบาคาร่าจะได้รับประโยชน์ และนำเอาเทคนิคของสูตรนี้ไปใช้งานจริง

กลับสู่สารบัญ

สูตรบาคาร่า fibonacci

อย่างที่เราคุ้นเคยคือการเล่นเดินเงินหลักๆ แล้วจะเพิ่มทีล่ะ 1 เท่าของทุนตัวเอง ทว่าสูตร fibonacci จะแตกต่างออกไป โดยจะนำเงินเดิมพันของรอบก่อน บวกกับเงินเดิมพันของรอบล่าสุด

ยกตัวอย่าง

  • เดิมพันครั้งแรก 1 หน่วย ครั้งต่อไป 1
  • ครั้งถัดไป 2 (นำ 2 ส่วนแรกมาบวกกัน นั้นคือ 1+1)
  • ครั้งถัดไป 3 (นำ 2 ส่วนแรกมาบวกกัน นั้นคือ 1+2)
  • ครั้งถัดไป 5 (นำ 2 ส่วนแรกมาบวกกัน นั้นคือ 2+3)
  • ครั้งถัดไป 8 (นำ 2 ส่วนแรกมาบวกกัน นั้นคือ 3+5)
  • ไปเรื่อยๆตามที่เราได้วางทุนในการเล่นเอาไว้
กฎของ fibonacci

การใช้สูตร fibonacci

เราจะเล่นแบบ ได้ ลบ 2 และ เสีย บวก 1 คือ หากเราชนะพนันในการเล่นสูตรเดินเงินบาคาร่า Fibonacci เราจะถอยไปเล่นจำนวนเงิน 2 ครั้งหลังสุด

ยกตัวอย่าง

  • หากเราชนะพนันในครั้งที่ 4 จำนวนเงินลงทุน 3 หน่วย 3 (นำ 2 ส่วนแรกมาบวกกัน นั้นคือ 1+2) ในรอบถัดไปเราจะย้อนกลับไป 2 รอบ นั้นก็คือการพนันในครั้งที่ 2

ทว่าหากเราเสียพนันในรอบไหนก็ตาม ให้เราลงเงินพนันไปในรอบถัดไปตามปกติทันที

ยกตัวอย่าง

  • หากเราชนะพนันในครั้งที่ 4 จำนวนเงินลงทุน 3 หน่วย 3 (นำ 2 ส่วนแรกมาบวกกัน นั้นคือ 1+2) ในรอบถัดไปเราจะเลื่อนไปเล่นในรอบถัดไป นั้นคือการพนันในครั้งที่ 5

หากเราแพ้พนันจนถึงรอบที่ 1 ให้เราเล่นในรอบที่ 1 ไปเหมือนเดิม

การเดินเงินสูตรบาคาร่า fibonacci

เราได้เรียนรู้ของกฏ Fibonacci ไปเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้จะมาสอนใช้งานสูตรนี้กัน โดยสิ่งที่จะต้องมีอย่างแรกเลยคือเงินทุน แล้วแบ่งออกเป็นกองๆ

รอบที่ 1

  • เดิมพัน 100 บาท
  • ผล : ชนะ
  • กำไรรวมทั้งหมด : 100 บาท

รอบที่ 2

  • เดิมพัน : 100 บาท (ถอยกลับ 2)
  • ผล : ชนะ
  • กำไรรวมทั้งหมด : 200 บาท

รอบที่ 3

  • เดิมพัน 100 บาท (ถอยกลับ 2)
  • ผล : แพ้
  • กำไรรวมทั้งหมด : 100 บาท

รอบที่ 4

  • เดิมพัน 100 บาท (เดินหน้า 1)
  • ผล : แพ้
  • กำไรรวมทั้งหมด : 0 บาท

รอบที่ 5

  • เดิมพัน 200 บาท (บวกรอบก่อน และรอบล่าสุด)
  • ผล : แพ้
  • กำไรรวมทั้งหมด : ติดลบ 200 บาท

รอบที่ 6

  • เดิมพัน 300 บาท (บวกรอบก่อน 100 และรอบล่าสุด 200)
  • ผล : แพ้
  • กำไรรวมทั้งหมด : ติดลบ 500 บาท

รอบที่ 7

  • เดิมพัน 800 บาท (บวกรอบก่อน 300 และรอบล่าสุด 500)
  • ผล : ชนะ
  • กำไรรวมทั้งหมด : 300 บาท

คงจะเห็นภาพขึ้นมาแล้วว่าการเล่น บาคาร่าแบบการเดินเงิน fibonacci นั้นจะเล่นในรูปแบบไหน หากวางแผนดีๆ ทั้งทุนในการเล่น รวมถึงคาดการณ์ในระยะที่ปลอดภัย ประมาณ 5-10 ไม้ ก็จะสามารถกลับมากำไรได้ไม่มากก็น้อย

วิเคราะห์สูตรบาคาร่า fibonacci

เหตุการณ์ที่ทำให้สูตรทำงานได้ดี

  • ชนะบ้างแพ้บ้างสลับกันไป แต่โดยรวมๆ แล้วชนะต้องเยอะกว่านิดหน่อย
  • ชนะติดกัน เช่น ติดกัน 3 ครั้ง 2 ครั้ง ก็ได้
  • ชนะเยอะๆ แทบจะไม่ค่อยแพ้เลย

เหตุการณ์ที่ทำงานได้แย่

  • แพ้แบบติดๆกัน 3 ครั้ง 2 ครั้งบ้าง
  • แพ้ติดกันเยอะๆ แบบดวงซวยจริงๆ

สูตรบาคาร่า fibonacci ช่วยให้เสียเดิมพันน้อยลง

สิ่งที่ทำให้สูตรบาคาร่า Fibonacci นี้ต่างจาก Martingale ธรรมดา คือ fibonacci ไม่ได้ทำให้ได้กำไรจำนวนมากๆ ทันที หลังจาก ติดลบมานานหลายตา แบบ martingale แต่ fibonacci จะค่อยๆ ทำให้จากที่เสียเดิมพันมากๆ กลายเป็นเสียเดิมพันน้อยลง จนเริ่มได้กำไรอย่างช้าๆ

fibonacci ช่วยให้เสียเดิมพันน้อยลง

ข้อดีของสูตรบาคาร่า fibonacci

  • เป็นสูตรที่สามารถแก้ตัวได้ตลอดเวลา เพราะอย่างที่ได้บอกไปแม้ว่าจะแพ้ถึง 2-3 ไม้ติดๆ แต่หากเรากำไรสัก 1 ไม้ตามสูตรที่ได้วางไว้ ก็ยังพอมีโอกาสทำกำไรได้
  • หากเราชนะสัก 1-2 ไม้ติดต่อกัน ก็ควรจะพอกับการเล่นในรอบนั้นๆ ได้แล้ว หากทำกำไรตามที่ตั้งใจไว้ แน่นอนว่าหากใช้สูตรนี้ถูกต้อง ก็มีโอกาสขาดทุนน้อยมาก อยู่ที่เราวางแผนมาตั้งแต่ขั้นแรก และควรดำเนินตามแผนนั้น เพราะหากเล่นแบบไม่มีแผนการอาจจะมีโอกาสผิดพลาดได้
  • กำไรในการเดินเงินจากสูตร fibonacci ค่อนข้างจะเสถียร แต่อาจจะได้ไม่เยอะเหมือนกับการเดินเงินในรูปแบบอื่นๆ แต่มันก็มาพร้อมกับการไม่เสี่ยงจนเกินไป กับการเสียเงินเยอะในคราวเดียว

ข้อเสียของสูตรบาคาร่า fibonacci

  • หากแพ้สัก 3-4 ครั้งติดต่อกัน ท่านก็อาจจะเจอกับการขาดทุนแบบที่คาดไม่ถึงก็ได้ แม้โอกาสจะเป็นแบบที่กล่าวมาน้อยมาก แต่ถึงอย่างไรอยากให้เตรียมเงินทุนเอาไว้สัก 6-7 ไม้ เผื่อๆ เอาไว้ก่อน
  • ได้กำไรไม่เยอะ หากหวังทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ แนะนำให้ลองเล่นในสูตรอื่น แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

ภาพรวมของสูตรบาคาร่า fibonacci

สูตรนี้ให้ผลลัพธ์เป็นกำไรที่ค่อนข้างเสถียร ได้เรื่อยๆ แต่ไม่มาก ไม่เสี่ยงที่จะสูญเสียเงินก้อนใหญ่ ไม่มีกฎตายตัวว่าได้กำไรเท่าไรให้หยุดเริ่มรอบใหม่ การเล่นจะเล่นไปเรื่อยๆ เคลื่อนตัวไปขวาไปซ้ายของเลข fibo ทำให้เวลาเราเล่น เราอาจจะเล่นไปโดยไร้จุดหมาย และวิธีการนำมาใช้ผมว่ายากหน่อย ต้องเขียนลงบนกระดาษกรณีจำไม่ได้ เป็นสูตรที่ให้ผลลัพธ์ออกมาแบบกลางๆ เช่น ได้ก็ได้ไม่เยอะ เสียก็เสียไม่เยอะ ความเสี่ยงของสูตรอยู่ในระดับกลาง

เสน่ห์ของ การเดินเงิน fibonacci อีกอย่างหนึ่งคือ การที่เกมสามารถพลิกได้ตลอดเวลา อาจจะขึ้น หรือลงได้ตามแต่ที่เราเล่นว่าไม้นั้นเรา ชนะ หรือแพ้ เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่นักพนันควรจะต้องรู้ลำดับแรกเลยก็คือ การวางเป้าหมายก่อนการเล่น หากทำทุกอย่างที่กล่าวมาได้ถูกต้อง เชื่อเหลือเกินว่า การเดินเงิน fibonacci จะสามารถทำให้นักพนันพอใจกับผลลัพธ์ได้ในระดับหนึ่งแน่นอน

กลับสู่สารบัญ

สูตรบาคาร่า อัตราส่วนคงที่

ความหมายของคำว่า “อัตราส่วนคงที่” คือ % ของเงินทุนนั่นเอง การเตรียมทุนเพื่อเล่นบาคาร่าออนไลน์ในแต่ละวัน แนะนำให้แบ่งเงินออกเป็นอัตราส่วน % ยกตัวอย่างเช่น เราแบ่งเป็นก้อนละ 5% ถ้ามีเงินอยู่ 1,000 บาท ซึ่ง 5% ก็คือ 50 บาท เราจะเอาเงิน 50 บาทนี่ไปลงทุนแทงบาคาร่ารอบแรก

เข้าใจตรงกันว่า 1 รอบมี 4 เท่าของ 5% ก็คือ 20% นั่นเอง หากคุณแทงครั้งละ 50 บาท (5%) คุณเล่นหลายรอบ มีทั้งชนะ และแพ้รวมๆ กัน แต่สุดท้ายแล้วเงินของคุณจะเพิ่มขึ้น ถ้าได้กำไรเพิ่มเป็น 20% (200 บาท) ตอนไหนก็ให้หยุดเล่นทันที เป็นการเบรคชั่วคราว

สรุปเวลานี้จะมีเงินทั้งหมด 1,000 + 200 (กำไร) = 1,200 บาท ให้คุณปรับอัตราส่วน 5% อีกครั้ง ซึ่งในรอบต่อไปจะมีค่าเพิ่มขึ้นเป็น 60 บาท ให้คุณแทงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแพ้ชนะรวมกันได้กำไร 20% หรือ 240 บาท จากนั้นก็ทำเหมือนเดิมคือ หยุดแล้วปรับอัตราส่วนเดินใหม่อีกครั้งในการแทงรอบถัดไป

หัวใจสำคัญของ สูตรเดินเงินบาคาร่า อัตราคงที่ไม่ได้มีแค่หน่วยลงทุน มันครอบคลุมไปถึงกำไรด้วย

ทบทวนสูตร

  1. ในแต่ละวันเราจะต้องกำหนดทุนที่จะใช้เล่นให้ชัดเจนว่าจะเล่นกี่บาท
  2. วางเดิมพันในแต่ละตาแค่ 5% ของเงินทุนที่มีอยู่
  3. เมื่อได้กำไร 20% ของทุนทั้งหมด ให้เอากำไรไปรวมทุนเพื่อเป็นทุนก้อนใหม่ ทีนี้ทุนเราก็จะใหญ่ขึ้น
  4. วางเดิมพันตาละ 5% ของทุนก้อนใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนได้กำไร 20% อีกครั้ง
  5. ถ้าหากขาดทุน 20% ของทุนทั้งหมดในรอบนั้น ให้ปรับเดิมพันใหม่เป็น 5% ของทุนที่เหลืออยู่

สูตรบาคาร่า อัตราคงที่ ดีอย่างไร

ข้อดีหลักๆ คือมันช่วยให้เรามีความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ ค่อนข้างแน่นอน ไม่เหมือน สูตรเดินเงินตัวอื่นที่ยิ่งแทงยิ่งมีอัตราการได้คืนน้อยลง ในเวลาเดียวกันถ้าหากเงิน 5% ที่คุณแทงขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละรอบ ถ้าแทงชนะกำไรก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ แบบทวีคูณ และถึงแม้ว่าจะเล่นเสีย มันก็เสียในอัตราที่คงที่ พอเสียในระดับหนึ่งเราก็ปรับทุนใหม่ จะเล่นได้ หรือเสียมันก็อยู่ในเรทเดิม เพราะมันคือระบบการลงทุนแบบอัตราส่วนคงที่นั่นเอง

ตัวอย่างการปรับอัตราส่วน 5%

ในกรณีที่คุณชนะไปเรื่อยๆ ในแต่ละรอบของการเดิมพัน สูตรเดินเงินอัตราส่วนคงที่จำนวน 5% ของคุณจะขยายใหญ่ขึ้น เวลาแทงคุณก็สามารถแทงด้วยเงินที่เยอะขึ้นได้เรื่อยๆ มันส่งผลดีให้เงินของคุณโตเร็ว เรามีตัวอย่างแสดงให้เห็นผ่านตารางข้างล่างนี้ว่า เงินทุน 1,000 บาท ถ้ามีการแทง 5% และมีการปรับขนาด 5% ให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ค่าที่ออกมาจะเป็นอย่างไร

แต่หากคุณลองเข้าไปดูที่โต๊ะบาคาร่าจริงๆ มันไม่สามารถที่จะลงเงินละเอียดขนาดนี้ได้

ถ้าคาสิโนออนไลน์ไม่มีชิปตามที่เราต้องการ

ปัญหาในการใช้ สูตรเดินเงินบาคาร่า ด้วยวิธีอัตราคงที่ก็คือบางทีทุน 5% ที่เราคิดไว้มันไม่มีชิปให้ลง ส่วนมากตามโต๊ะบาคาร่าก็จะเริ่มต้นกันที่ 25, 100, 500 ไปเรื่อยๆ แล้วแต่โต๊ะ ทีนี้เราก็มาแก้โดยการกำหนดทุนรวมครับ โดย ทุนรวม = เงินแทง / 5% ยกตัวอย่างเช่น

เงินทุนเริ่มต้นคือ 1,000 บาท แทงตาละ 5% เท่ากับว่าผมต้องแทงตาละ 50บาท และทีนี้ผมจะเปลี่ยนรอบก็ต่อเมื่อได้กำไร 500 บาท แล้วค่อยปรับ 5% ใหม่อีกครั้ง รอบต่อไปผมจะมีเงินทุนก้อนใหม่เป็น 1,000 + 500 = 1,500 บาท เดิมพันที่ผมจะลงในรอบต่อไปคือรอบละ 75 บาท

วิธีนี้จะต่างจากวิธีแรกคือเราจะกำหนดกำไรคงที่ไว้ด้วย คือ รอบละ 500 บาท เพื่อให้รอบต่อไป เงินทุน / 5% จะได้ลงตัว

จำเป็นต้อง 5% 20% เสมอไป หรือไม่

ขอตอบว่าไม่จำเป็นครับ เพราะสูตรบาคาร่าอัตราคงที่ ไม่ได้กำหนดตายตัว ว่าเราจะต้องแบ่งเงินทุนออกเป็นก้อน ก้อนละ 5% แล้วถ้าหากเล่นไปได้กำไร หรือขาดทุน 20% ค่อยมาปรับเงินทุน 5% ใหม่อีกครั้ง หัวใจสำคัญของสูตรนี้อยู่ตรงที่ความคงที่ ความสม่ำเสมอ

คือเราจะใช้เป็นเปอร์เซ็นต์ก็ได้ หรือจะเป็นหน่วยเงินก็แล้วแต่ ขอแค่มันแบ่งแล้วได้จำนวนเท่าๆ กัน ใครมีมากอาจกำหนดเรทให้กับตัวเองมากก็ได้ ถ้าชอบเสี่ยง หรืออยากได้กำไรไวๆ แต่ถ้าใครมีเงินน้อยทุนน้อย จะใช้ขั้นต่ำของโต๊ะมาเป็นเกณฑ์ก็ได้ (บา คา ร่า ขั้น ต่ํา 5 บาท)

สรุปสูตรบาคาร่า อัตราส่วนคงที่

หวังว่าคุณจะนำความรู้จาก “สูตรเดินเงินอัตราส่วนทุนคงที่” ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่มากก็น้อย ความเสี่ยงของการบริหารเงินลักษณะนี้ถือว่าน้อยมาก และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง อย่างที่อธิบายไปว่าความเสี่ยงคงที่เสมอ ถ้าเงินเยอะขึ้นคุณอาจจะปรับเงินลงทุนให้น้อยลงกว่านี้ก็ได้

กลับสู่สารบัญ

สูตรบาคาร่า แทงดัก 4 จุด

เป็นสูตรที่มีความเสี่ยงอย่างยิ่ง แน่นอนว่าผู้เล่นที่จะใช้สูตรนี้ต้องมีประสบการณ์ในการเล่น บาคาร่าออนไลน์ เสียก่อน ถึงจะลองเล่นได้ ซึ่งแนะนำให้มือใหม่ ลองเข้าไปศึกษา แนวทางการเล่น บาคาร่าออนไลน์ ในเว็บของเราก่อนได้เลย โดยสูตรนี้จะไม่ใช่สูตรเดินเงิน ฉะนั้นหากชนะจะได้กำไรที่มาก แต่หากใช้สูตรผิด ท่านๆ ก็จะเสียเงินมากเช่นกัน เพราะฉะนั้นต้องปฏิบัติตามการใช้สูตรอย่างเคร่งครัด สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มเล่น เรียนรู้สูตรนี้ไว้ก้ไม่เสียหาย

อัตราการจ่าย บาคาร่า

สำคัญกับสูตรนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากสูตรนี้จะไม่ได้ใช้สูตรการเดินเงิน หรือการทบเงิน แบบมาติงเกล เข้ามาช่วย เพราะฉะนั้นเราต้องคำนวณการ ชนะ และแพ้ ด้วยอัตราการจ่ายของเว็บเองทั้งหมด มาดูอัตราการจ่ายเงินกันว่าว่า คิดคำนวณเช่นไร

อัตราการจ่าย บาคาร่า palyer

เป็นการจ่ายที่เข้าใจง่ายที่สุด อัตราการจ่ายอยู่ที่ แทง 1 ได้ 1

  • เช่น : พนัน สีน้ำเงิน (PLAYER) 500 บาท หากชนะจะได้ 1,000 บาท รวมทุน

อัตราการจ่าย บาคาร่า banker

เป็นการจ่ายที่ไม่เต็มจำนวน อัตราการจ่ายอยู่ที่ แทง 1 ได้ 0.95

  • เช่น : พนัน สีแดง (BANKER) 500 บาท หากชนะจะได้ 950 บาท รวมทุน

อัตราการจ่าย บาคาร่า tie

เป็นการจ่ายสำหรับไพ่ออกเสมอ อัตราการจ่ายอยู่ที่ แทง 1 ได้ 8

  • เช่น : พนัน เสมอ (TIE) 500 บาท หากชนะจะได้ 4,500 บาท รวมทุน

อัตราการจ่าย บาคาร่า palyer*2

ไพ่คู่ จ่ายมากที่สุด อัตราการจ่ายอยู่ที่ แทง 1 ได้ 11

  • เช่น : พนัน สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ 500 บาท หากชนะจะได้ 6,000 บาท รวมทุน

อัตราการจ่าย บาคาร่า banker*2

ไพ่คู่ จ่ายมากที่สุด อัตราการจ่ายอยู่ที่ แทง 1 ได้ 11

  • เช่น : พนัน สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ 500 บาท หากชนะจะได้ 6,000 บาท รวมทุน

กฏการใช้สูตรบาคาร่า แทงดัก 4 จุด

การใช้งานนั้น ไม่ซับซ้อน แต่แน่นอนว่าหากคุณหวังจะใช้สูตรนี้ ใจต้องถึง เพราะฉะนั้นต้องทำตามกฏที่บอกอย่างละเอียดที่สุด เลือกเว็บที่ไว้ใจได้ ในที่นี้แนะนำ FIFA55 ให้บริการคนไทยมากว่า 20 ปี ถ้าไม่ดีจริง ไม่อยู่มานานถึงขนาดนี้แน่นอน

ลำดับต่อมาคือการเลือกห้อง อย่างแรกเลยควรเลือกห้องที่มีเป็นห้องเค้าไพ่มังกร คือ สีน้ำเงิน (PLAYER) และสีแดง (BANKER) มีการออกติดต่อกันเยอะและบ่อย นอกจากจะมีเค้าไพ่มังกรแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ ไพ่คู่ เพราะหากเราชนะ เราจะได้ถึง แทง 1 ได้ 11 เลยทีเดียว

การสังเกตไพ่คู่คือ จุดมุมขวาล่าง คือ ตานั้นสีน้ำเงิน (PLAYER) ได้ไพ่คู่ หรือ จุดมุมบนซ้าย คือ ตานั้นสีแดง (BANKER) ไพ่คู่ ให้จดและวางแผนก่อนการเล่นทุกครั้ง เนื่องจากเราต้องรู้ให้แน่ชัดว่า เราเล่นอะไรไปบ้างใน 4 จุด และเล่นจุดล่ะกี่หน่วย

เช่น : ต้องการเล่นดัก 4 จุด ด้วยงบ 20 หน่วย แบ่งได้ดังนี้

  • สีน้ำเงิน (PLAYER) 10 หน่วย
  • เสมอ (TIE) 2 หน่วย
  • สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ 4 หน่วย
  • สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ 4 หน่วย

โดยต้องกำหนด 1 หน่วย เท่ากับ 1,000 บาท เป็นต้น

วิธีการใช้สูตรบาคาร่า แทงดัก 4 จุด

การนำลำดับขั้นตอนในการเลือกแทงทั้ง 4 จุดนั้น มีวิธีทำอย่างไร และคิดคำนวณถึงผลกำไร และการขาดทุนออกมาให้ดูด้วย ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน

หมายเหตุ : 1 หน่วย เท่ากับ 1,000 บาท

สีน้ำเงิน (PLAYER) 10 หน่วย

  • 10 (สีน้ำเงิน (PLAYER)) – 2 (เสมอ (TIE)) – 3 สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ – 3 สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ = 2 หน่วย = เราได้กำไร 2 หน่วย หรือ 2,000 บาท

สีแดง (BANKER) 0 หน่วย

  • 10 (สีน้ำเงิน (PLAYER)) – 2 (เสมอ (TIE)) – 3 สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ – 3 สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ = -18 หน่วย = เราขาดทุน 18 หน่วย หรือ 18,000 บาท

เสมอ (TIE) 2 หน่วย

  • 0 (สีน้ำเงิน (PLAYER)) + (2*8) (เสมอ (TIE)) – 3 สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ – 3 สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ = 10 หน่วย = เราจะกำไร 10 หน่วย หรือ 10,000 บาท

สีน้ำเงิน (PLAYER) 10 หน่วย + สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ 3 หน่วย

  • 10 (สีน้ำเงิน (PLAYER)) – 2 (เสมอ (TIE)) + (3*11) สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ – 3 สีแดง(BANKER) ไพ่คู่ = 38 หน่วย = เราจะกำไร 38 หน่วย หรือ 38,000 บาท

สีน้ำเงิน (PLAYER) 10 หน่วย + สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ 3 หน่วย

  • 10 (สีน้ำเงิน (PLAYER)) – 2 (เสมอ (TIE)) – 3 สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ + (3*11) สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ = 38 หน่วย = กำไร 38 หน่วย หรือ 38,000 บาท

สีแดง (BANKER) 10 หน่วย + สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ 3 หน่วย

  • 10 (สีน้ำเงิน (PLAYER)) – 2 (เสมอ (TIE)) – 3 สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ + (3*11) สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ = 18 หน่วย = เราจะกำไร 18 หน่วย หรือ 18,000 บาท

สีแดง (BANKER) 10 หน่วย + สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ 3 หน่วย

  • 10 (สีน้ำเงิน (PLAYER)) – 2 (เสมอ (TIE)) – 3 สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ + (3*11) สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ = 18 หน่วย = เราจะกำไร 18 หน่วย หรือ 18,000 บาท

เสมอ (TIE) 2 หน่วย + สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ 3 หน่วย + สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ 3 หน่วย

  • 0 (สีน้ำเงิน (PLAYER)) + (2*8) (เสมอ (TIE)) + (3*11) สีน้ำเงิน (PLAYER) ไพ่คู่ + (3*11) สีแดง (BANKER) ไพ่คู่ = 82 หน่วย = เราจะกำไร 82 หน่วย หรือ 82,000 บาท

สิ่งที่ควรรู้ในการใช้สูตรบาคาร่า แทง 4 จุด

หากลงทุนกับสูตรนี้ แน่นอนว่า จำเป็นจะต้องมีเงินทุนพอสมควร โอกาสที่จะกำไรแบบมากๆ ก็มี โอกาสที่จะเสียทีเดียวหมดหน้าตักก็มี เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังการเล่น ให้อยู่ในงบประมาณที่พร้อมจะเสียได้จริงๆ มิเช่นนั้นการพนันที่เล่นสนุกๆ จะให้โทษได้

กลับสู่สารบัญ

สูตร บาคาร่า99

สำหรับใครที่อยากเลือกสูตรบาคาร่า99 ใช้งาน มีวิธีเลือกดังนี้

  • สามารถเข้าใจง่าย
  • ต้องประกอบไปด้วย วิชาการ ตรรกะ วิธีคิด เหตุ และผล
  • เพิ่มโอกาสชนะ และลดความเสี่ยง

แต่หากท่านใด ไม่อยากเสียเวลาเลือกสูตร บาคาร่า99 ด้วยตัวเอง เราก็มี 3 สูตรบาคาร่า ที่นิยมนำมาใช้มากที่สุดในไทย มานำเสนอให้เรียบร้อย ได้แก่

  • สูตรแทงฝั่งเดียว
  • สูตรแทงตามรูปแบบสถิติย้อนหลัง
  • และสูตรแทงสลับ

สูตรบาคาร่าแบบแทงฝั่งเดียว

คือให้คุณเลือกเดิมพันฝั่งใดฝั่งหนึ่งเท่านั้น เช่น เลือกแทงฝั่งเจ้ามือแต่ข้างเดียว หรือเลือกแทงฝั่งผู้เล่นข้างเดียว สูตรนี้ดูเหมือนจะใช้งานง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่แฝงด้วยประสิทธิภาพ ไปดูหลักการทำงานของมันกันเลย

หลักการใช้สูตรแทงฝั่งเดียว

  • ให้เลือกฝั่งแทง ผู้เล่น หรือเจ้ามือ เมื่อเลือกแล้วให้คุณเดิมพันฝั่งเดิมไปตลอด
  • หากแทงผิดถึง 3 ตาติดกัน ตาถัดไปอย่าเพิ่งแทง ให้คุณหยุดรอจังหวะใหม่ซะก่อน
  • มีการวางแผนเรื่อง กำไร – ขาดทุน เช่น ลงทุน 3,000 บาท ตั้งกำไร – ขาดทุน ไว้ที่ 1,000 บาท เมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน ก็ยุติการเล่นทันที ห้ามฝ่าฝืนเด็ดขาด หลังจากนั้นค่อยเริ่มเล่นใหม่ในวันถัดไป
  • เมื่อคุณแทงถูกติดต่อกัน 2 ตาติด ตาถัดไปให้หยุดรอก่อน รอให้ผลออกฝั่งตรงข้ามซะก่อน แล้วค่อยตัดสินใจเริ่มต้นเดิมพัน บาคาร่า99 ฝั่งเดิมต่อไป

หากคุณเดิมพันฝั่งเจ้ามือ อัตราจ่ายของฝั่งเจ้ามือจะได้รับน้อยกว่าฝั่งผู้เล่นร้อยละ 0.5

สูตรแทงตามรูปแบบสถิติการออกของไพ่

การใช้งานสูตรนี้ จะยึดตามรูปแบบสถิติผลการออกย้อนหลังของฝั่งแดง (เจ้ามือ) และฝั่งน้ำเงิน (ผู้เล่น) โดยรูปแบบการออกผลที่เรียกว่าเค้าไพ่จะประกอบด้วยกัน 5 รูปแบบ ดังนี้

  1. แบบชายโครง คือ เป็นการออกไพ่คล้ายๆ กระดูกซี่โครง ถ้าดูตามตารางผลการออกบาคาร่า เช่นออกแดง 4 ครั้ง แล้วก็ออกน้ำเงิน 1 ครั้ง ออกแดงอีก 5 ครั้ง และออกน้ำเงิน, แดง และน้ำเงินติดกัน 5 ครั้ง เป็นต้น
  2. แบบมังกร คือ รูปแบบผลการออกบาคาร่า ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง หลายครั้งติดกัน
  3. ปิงปอง คือ รูปแบบผลการออกบาคาร่าสลับฝั่งกันไปมา
  4. แบบคู่ คือ รูปแบบผลการออกบาคาร่าฝั่งละ 2 ครั้ง
  5. แบบตัด คือ รูปแบบผลการออกบาคาร่าชนแล้วตัด เช่น ออกแดงติดต่อกัน อยู่ๆ ออก เสมอ และตาถัดไปเปลี่ยนฝั่งไปออกสีน้ำเงินแทนนั้นเอง

หากเพื่อนเข้าใจรูปแบบการออกผลทั้ง 5 รูปแบบนี้แล้ว ให้คุณทำตามหลักการทำงานของสูตรบาคาร่านี้ได้เลย

หลักการทำงานของสูตรเค้าไพ่บาคาร่า

  1. สังเกตุเค้าไพ่ของห้องบาคาร่าที่เราเข้าไปเล่น โดยให้แยกตามลักษณะ 5 รูปแบบ ชายโครง แบบตัด แบบคู่ มังกร ปิงปอง
  2. เมื่อเรารู้แล้วว่าผลการออกเป็นไปตามรูปแบบใด ให้เราแทงตามรูปแบบนั้น เมื่อคุณเดิมพันชนะติดต่อกัน 2 ครั้ง ตาถัดไป แนะนำให้คุณแทงบาคาร่าสวนทางจากเดิม
  3. ให้คุณตั้งเป้าหมายของ กำไร – ขาดทุน เมื่อถึงเป้าที่วางเอาไว้แล้ว ให้คุณหยุดเล่นทันที และเริ่มเล่นใหม่ในวันถัดไป

สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้งานสูตรนี้ คือ การดูลักษณะรูปแบบผลการออกสถิติบาคาร่าย้อนหลัง

สูตรบาคาร่าแบบแทงสลับ

มีขั้นตอนง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แค่แทงสลับกันไปมาระหว่าง ฝั่งผู้เล่นกับฝั่งเจ้ามือ ซึ่งความน่าจะเป็นที่ผลจะออกสลับมีเปอร์เซ็นต์สูงถึง 87.5% แต่จะออกสลับกันแบบนี้ไม่เกิน 3 ตาติดต่อกัน

สถิติความน่าจะเป็นที่ออกสลับติดกัน

  • 3 ตาติด 25%
  • 4 ตาติด 11.72%
  • 5 ตาติด 5.47%
  • 6 ตาติด 1.56%
  • 7 ตาติด 0.78%

หลักการใช้งานสูตรแทงสลับ

  1. ขั้นแรกให้สังเกตุผลการออกบาคาร่าย้อนหลังในแต่ละห้อง ว่าเป็นลักษณะแบบไหน แล้วเลือกเล่นห้องที่มีรูปแบบออกสลับ หรือ มีรูปแแบบปิงปอง แบบคู่
  2. เมื่อเข้าห้องแล้ว ให้คุณเดิมพันตามสูตรสลับระหว่าง B P B P B P B P
  3. หากเล่นชนะได้ถึง 5 ตา ให้หยุดเล่นทันที
  4. หากเล่นแพ้ ตาถัดไป ให้ทบเงินเดิมพันทันที
  5. หากทำตามข้อ 4 แล้ว ยังเล่นแพ้อีก ให้หยุดเล่น แล้วรอจังหวะใหม่
  6. เมื่อแพ้ถึง 9 เกมติดต่อกัน ให้ทำการหยุดเล่นทันที

สรุปการใช้ 3 สูตรบาคาร่า

ทั้งสามสูตรนี้ คุณสามารถทำเงินได้แน่นอน โดยต้องทำตามสูตรอย่างเคร่งครัด แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ถ้าหากคุณยอมรับในจุดเสี่ยงนี้ได้ ก็ไม่มีปัญหาใดๆ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่เข้ามาอ่าน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

กลับสู่สารบัญ

สูตรบาคาร่า ฮ่องกง

โดยสูตรนี้จะใช้วิธีการสังเกตุ และการคาดเดา เพื่อจะหาความเป็นไปได้มากที่สุด ซึ่งจะต้องใช้ประสบการณ์ สำหรับการดูบาคาร่าสักเล็กน้อง หากใครเป็นมือใหม่ แนะนำให้อ่าน สอนเล่นบาคาร่าออนไลน์ หลังจากนั้น ก็มาลองสูตรที่เราจะสอนกันต่อไปนี้ได้เลย

สูตรบาคาร่า ฮ่องเกง เป็นสูตรที่ว่าด้วยเรื่องของการใช้สถิติ ว่าเกมนั้นๆ ฝั่ง สีแดง (BANKER) และ สีน้ำเงิน (PLAYER) มีการออกไปแล้วจำนวนมากน้อยแค่ไหน เพื่อนำมาประกอบการใช้สูตร โดยมีวิธีที่เป็นจุดสังเกตในการดูดังนี้

  1. เกมต้องดำเนินไปไม่น้อยกว่า 20 เกม เนื่องจากต้องใช้สถิติการออกของแต่ล่ะรอบ เป็นตัวคำนวณคิดผลในการใช้สูตร
  2. เลือกเล่นในฝั่งที่มีการออกน้อยกว่าบวกลบไม่เกิน 4 เกม

เช่น สีแดง (BANKER) ออกไปแล้ว 20 เกมสีน้ำเงิน (PLAYER) ออกไปแล้ว 17 เกม เราควรจะเล่นทางฝั่งของ สีน้ำเงิน (PLAYER) ที่มีการออกน้อยกว่า

แนวคิดของสูตรบาคาร่าฮ่องกง

สูตรบาคาร่าฮ่องกง หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า บาคาร่า สูตร 6 แถว เป็นการนำผลการออกที่ผ่านมาทั้งหมด มาลิสต์ใหม่ในตารางที่หน้าตาเหมือนตารางลูกปัด เป็นตาราง 6 แถวที่ไม่ได้จำกัดจำนวนคอลัมน์ เพื่อดูว่ามีผลการออกไพ่ฝั่งไหนไปแล้วมากกว่ากัน ก็ให้เราแทงฝั่งที่มีการออกไพ่มาน้อยกว่า เพราะเชื่อว่าการออกไพ่ในการเล่นนั้น ผลการออกทั้ง 2 ฝั่งมันควรจะเท่าๆ กัน สาเหตุที่เกิดความเชื่อแบบนี้ขึ้น

เนื่องจากมีการพิสูจน์โอกาสในการออกไพ่ของการเล่นบาคาร่าเอาไว้ กรณีที่ใช้ไพ่ 6 สำรับในการเล่น พบว่า โอกาสที่ทางฝั่งเจ้ามือ (Banker : B) จะเป็นผู้ชนะคือ 45.87% ส่วนโอกาสที่ทางผู้เล่น (Player : P) ชนะนั้น มีอยู่ 44.63% โดยอีก 9.5% นั้น คือความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกันนั่นเอง ซึ่งจากตัวเลขความน่าจะเป็นนี้จึงตีความง่ายๆ ว่าโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะชนะนั้นมีเท่าๆ กัน

แต่ยังไงก็ตาม ในสถานการณ์จริง ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ต้องพิจารณาร่วมกัน เช่น การเสมอกันของผู้เล่นกับเจ้ามือ จำนวนสํารับไพ่ที่ใช้ การใส่การ์ดสี (cut card) ที่ช่วงท่ายของขอนไพ่ การจั่วไพ่ใบที่ 3 เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้การชนะของทางฝั่งเจ้ามือ และผู้เล่น ในรอบการเล่นนั้นๆ ไม่ได้มีผลแบบ 50-50 ก็ได้ เนื่องจากรอบการเล่นที่สั้นกว่า ผลการคำนวณมันอาจไม่เป็นไปตามค่าสถิติ แต่สำหรับการเล่นในระยะยาว ผลมันจะเข้าใกล้เคียงอัตราส่วน 50-50 แน่นอน

วิธีการดูห้อง

หลังจากที่ทราบหลักการของสูตร บาคาร่า ฮ่องกง กันไปแล้ว ในขั้นตอนต่อไป เราจะพาไปเจาะลึกวิธีการดูอย่างล่ะเอียด

  1. ต้องหาเว็บที่มั่นใจได้ ผมขอแนะนำ FIFA55 เมื่อสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถกรอกฝากยอด เล่นได้ทันที
  2. เมื่อเข้ามาหน้าเล่นแล้ว สามารถเลือกห้องเล่นได้เลย ควรเลือกห้องที่เล่นไปมากกว่า 20 เกม ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีห้องที่เข้าสูตรที่เราวางไว้ เนื่องจากมีมากถึง 16 ห้องให้เลือกเล่น
  3. เมื่อเข้ามาถึงห้องแล้ว ให้สังเกตดูว่าห้องที่เราเลือกนั้น เข้าค่ายสูตรบาคาร่า ฮ่องกง หรือไม่ โดยสังเกตว่าระยะห่างของ สีแดง (BANKER) และสีน้ำเงิน (PLAYER) มีมากน้อยเพียงใด หากมีมากกว่า 4 ครั้ง สามารถกดตามสูตรได้เลย

ตัวอย่างการใช้สูตร

  1. ให้สังเกตห้องที่มีการเล่นมากกว่า 20 เกม หากมากกว่านี้ได้ยิ่งดี และที่สำคัญต้องกดไปดูก่อนว่า สถิติการชนะระหว่างสีแดง (BANKER) และสีน้ำเงิน (PLAYER) ต้องไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง หากท่านชนะตามสูตร ให้ออกจากห้องนี้ และไปหาห้องใหม่ ที่เข้าสูตรเล่นทันที เนื่องจากหากเล่นซ้ำ มีโอกาสสูงที่สูตรจะกดไม่ติด
  2. หากหลายคนถามว่า ระยะห่างของทั้งสีแดง (BANKER) และสีน้ำเงิน (PLAYER) มากกว่าหรือน้อยกว่า 4 ครั้งได้ หรือไม่ ตอบว่าทั้ง ได้ และ ไม่ได้ ส่วนของ ได้ คือหากลองหาห้องแล้วไม่เข้ากับสูตรแบบพอดี มีการชนะแพ้กันห่างกว่า 4 ครั้งขึ้นไปก็แล้วแต่ ให้พนันฝั่งที่ตามหลังได้เลย (แต่หากพนันเสีย แนะนำให้ไปหาห้องใหม่) แต่หากห้องไหนที่มีระยะห่างน้อยกว่า 4 ครั้ง ไม่แนะนำให้เล่นสูตรบาคาร่า ฮ่องกง โดยเด็ดขาด

ฉะนั้นให้ลองหาห้องที่เข้าสูตรได้ถูกต้องทั้งหมดดีกว่า หากหาไม่ได้จริงๆ ก็ลองใช้สูตรตามข้อนี้ลองเล่นดูได้

จุดเด่นของ สูตรบาคาร่าฮ่องกง

ถึงแม้ว่าจะแตกต่างจากสูตรบาคาร่าที่มีอยู่ในท้องตลาดทั่วไป แต่ Concept ปลายทางยังเหมือนกันอยู่ คือการบอกแนวโน้มว่า เราควรจะเลือกแทงฝั่งไหน ซึ่งจุดเด่นของ สูตรบาคาร่า ฮ่องกง แบบ 6 แถว มีดังนี้

  1. เข้าใจได้ง่ายกว่าการใช้ตารางออกผล ที่มากับโปรแกรมบาคาร่าที่เล่น เนื่องจากเกมบาคาร่า เป็นเกมที่มีรอบการเล่นเร็ว บางครั้งการดูผลจากตารางที่มีมาให้ในโปรแกรม ทำให้เราตัดสินใจได้ช้า
  2. ผู้เล่นมือใหม่สามารถนำสูตรไปใช้ได้เลย เพราะมีหลักการในการทำงานที่เข้าใจได้ง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน
  3. มีการอ้างอิงทฤษฎี เรื่องการออกผลที่เท่าๆ กัน ของทั้งฝั่งผู้เล่น และเจ้ามือ จึงทำให้สูตรมีความน่าเชื่อถือ
  4. ไม่ต้องมานั่งจำว่าอะไรคือเค้าไพ่มังกร ออกติด ออกสลับ เพียงแค่นับจำนวนว่าผลการออกต่างกันเกิน 4 ครั้งขึ้นไป ให้เลือกแทงฝั่งที่มีน้อยกว่าได้เลย
  5. ไม่จำเป็นต้องแทงทุกตา ช่วยลดความเสี่ยงในการทายผลผิดได้
  6. ไม่มีการกำหนดจำนวนครั้งในการเล่น สามารถใช้สูตรนี้เป็นแนวทางในการเล่นไปจนจบรอบได้เลย ไม่เหมือนบางสูตรที่บอกว่าเล่นตามสูตรได้เพียง 4 ครั้ง แล้วต้องเลิก หรือให้ย้ายโต๊ะเป็นต้น

เพิ่มประสิทธิภาพด้วยสูตรเดินเงิน

อย่างที่บอกไป สูตรเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่ง ให้เราเลือกข้างที่จะวางเดิมพันได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้รับประกันว่า จะทำกำไรได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องมีการเสริมพลัง สูตรบาคาร่า ฮ่องกง ด้วยการใช้สูตรการเดินเงิน ควบคู่กันไป ซึ่งสูตรการเดินเงินที่เป็นที่นิยมใช้ทั่วไป มีดังนี้

  1. สูตรการเดินเงินแบบคงที่ ก็คือวางเดิมพันเท่ากันทุกตาไม่ว่าจะได้หรือจะเสีย แทงเท่าเดิมตลอด เป็นสูตรที่เหมาะกับผู้เล่นที่ไม่ชอบความเสี่ยงสูง เพราะไม่ได้มีการเพิ่มเงินเดิมพัน ข้อดี คือ สามารถควบคุมวงเงินที่เราจะเสียได้ง่าย แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ไม่ได้ช่วยทำกำไรแบบเป็นกอบเป็นกำให้กับผู้เล่น
  2. สูตรมาติงเกล คือ การทบเงินเดิมพัน ขึ้นเป็น 2 เท่า จากการวางเดิมพันครั้งล่าสุด ในทุกครั้งที่เล่นเสีย แต่ถ้าเล่นชนะก็จะแทงเท่าเดิม 1-2-4-8-16-32 จำกัดสูงสุดที่การทบ 5 ไม้
  3. สูตร Super Martingale ใช้หลักการเดียวกันกับสูตรมาติงเกล แต่คิดค้นขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการทำกำไร ที่ ผู้เล่นจะกำไรเพียงแค่ 1 หน่วยเท่านั้น สูตร Super มาติงเกล จึงใช้ลำดับในการเดินเงิน เป็น1-3-7-15-31-63 ซึ่งเมื่อชนะ จะทำกำไรให้กับผู้เล่นได้ 5 หน่วย
  4. สูตร Winning Martingale เป็นสูตรที่ กลับกันกับสูตรมาติงเกลธรรมดาคือ เพิ่มเงินเดินพันทุกครั้งที่ชนะ โดยใช้ลำดับ ในการเดินเงิน เหมือนกันกับสูตรมาติงเกล ก็คือ 1-2-4-8-16-32 ซึ่งสูตรนี้สามารถแก้ปัญหาเงินเดิมพันไม่พอได้ เพราะจะทบเงินเดิมพัน เมื่อชนะเท่านั้น

สรุป สูตรบาคาร่า ฮ่องกง

สำหรับสูตรบาคาร่า ฮ่องกง นั้นเป็นสูตรที่ใช้ไม่ยาก โดยมีแค่หลักการง่ายๆ เพียง 2 ข้อ 1. จำนวนเกมที่มากกว่า 20 ครั้ง 2. จำนวนระยะห่างของการชนะสีแดง (BANKER) และสีน้ำเงิน (PLAYER) ต้องไม่น้อยกว่า 4 ครั้ง (มากกว่านั้นได้ แต่ก็มีความเสี่ยง) เพียงอย่างเดียวที่อยากจะเตือนก็คือ หากไม่เข้าสูตรจริงๆ ควรใจเย็นๆ และเลือกห้องที่ใช้ที่สุด และหากเกิดเสียพนัน แนะนำไม่ควรเล่นห้องเดิน ให้ไปลองเลือกห้องใหม่จะดีกว่า

กลับสู่สารบัญ

บาคาร่าแพ็คเก็ต

หากท่านตั้งเป้าจุดหมายเป็นตัวเงิน แน่นอนว่าการจะไปถึงตรงนั้น ต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ หากท่านไม่ได้วางแผน แน่นอนว่าย่อมถึงจุดหมายช้ากว่า หรือบางคนอาจจะไม่ถึงเลยก็เป็นไปได้

โดยจะแตกต่างจากสูตรอื่นๆ ที่อาจจะต้องใช้ทุนทรัพย์เป็นหลัก ทว่าสูตรแพ็คเก็ตนั้นแตกต่างออกไป เป็นการรวม 4 สูตรเข้าด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่า จุดเด่นคือการใช้ทุนที่น้อย เพราะฉะนั้นสูตรนี่จึงเหมาะของผู้เล่นระดับเริ่มต้น จนไปถึงระดับซียน เพราะหากเกิดผิดพลาด และล้มลงจะไม่เจ็บตัวมากนัก

กฎการใช้ บาคาร่าแพ็คเก็ต

สำหรับการใช้สูตร แพ็คเก็ต มีหลักการอยู่ 4 ข้อด้วยกันดังนี้

  1. การออก สีแดง (BANKER) หรือ สีน้ำเงิน (PLAYER) ที่ครั้งล่าสุดออกติดๆ กัน ที่ก่อนหน้านั้นออกสลับมาได้สักเล็กน้อยแล้ว
  2. เป็นการออกไพ่สลับกันไป เช่น สีแดง (BANKER) 1 ครั้ง สีน้ำเงิน (PLAYER) 1 ครั้ง แล้วกลับมา สีแดง (BANKER) อีกครั้ง ทั้งนี้หากเกิดขึ้น 3 เกมติดต่อกัน ถือว่าหลักการในการออกสลับแล้ว
  3. การออก สีแดง (BANKER) หรือ สีน้ำเงิน (PLAYER) 2 ครั้งติด และมีสีที่แตกต่างกันอีก 1 ครั้ง ใน 3 เกมหลังสุด เช่น สีน้ำเงิน (PLAYER) 2 ครั้ง และครั้งล่าสุด สีแดง (BANKER)
  4. เป็นรูปแบบที่มี สีแดง (BANKER) หรือ สีน้ำเงิน (PLAYER) ออก 2 ครั้งติดต่อกัน ใน 4-6 ไม้หลังสุด เช่น สีแดง (BANKER) ออก 2 ครั้ง และต่อเนื่องด้วย สีน้ำเงิน (PLAYER) ออกอีก 2 ครั้ง

วิธีการใช้ สูตรบาคาร่าแพ็คเก็ต

หลังจากทราบถึงหลักการเล่นกันไปแล้ว มาคราวนี้เราจะสอนวิธีการใช้ว่า หากออกตามข้อใดข้อหนึ่ง เราจะทำยังไงต่อกับเกมต่อไป

ออก 2 ตัวติด

  • ให้เราตามน้ำต่อไปทันที ตัวอย่าง : ก่อนหน้านั้น สีแดง (BANKER) หรือ สีน้ำเงิน (PLAYER) ออกสลับกันมา ก่อนจะเป็น สีน้ำเงิน (PLAYER) ออก 2 เกมติดต่อกัน ให้เราพนัน สีน้ำเงิน (PLAYER) ต่อได้เลยทันที

ออกสลับ

  • ออกสลับไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงอะไร ให้เราเดินเกมแบบสลับต่อได้เลย ตัวอย่าง : ก่อนหน้านั้น สีแดง (BANKER) หรือ สีน้ำเงิน (PLAYER) ออกสลับกันมาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะกี่เกมก็ตาม เราก็ออกสลับแบบเดิม

ออก 2 ตัวตัด

  • หากเกมดำเนินมา โดย 3 เกมหลังสุดมี สีแดง (BANKER) หรือ สีน้ำเงิน (PLAYER) สีใดสีหนึ่งออกคู่ และตาถัดมาออกตรงข้ามกัน ให้เกมต่อไปเราวางสีที่ออกคู่ก่อนหน้านั้นได้เลย ตัวอย่าง : ก่อนหน้านั้น สีน้ำเงิน (PLAYER) ออกคู่มา 1 ครั้ง และเกมล่าสุดออก สีแดง (BANKER) เพราะฉะนั้นในเกมถัดไป เราสามารถเลือกเล่น สีน้ำเงิน (PLAYER) ได้เลย

2-2-2

  • หากมีการออก คู่ไม่ว่าจะ สีแดง (BANKER) หรือ สีน้ำเงิน (PLAYER) ก่อนหรือหลัง ให้เราเลือกสีคู่ถัดไปได้ทันที ตัวอย่าง : ก่อนหน้านั้น สีแดง (BANKER) ออกมา 1 คู่ และ 2 เกมล่าสุดเป็น สีน้ำเงิน (PLAYER) ออกคู่มาติดกัน เพราะฉะนั้นในเกมถัดไป เราสามารถเลือกเล่น สีแดง (BANKER) ได้เลย

ฝากทิ้งท้าย บาคาร่าแพ็คเก็ต

เมื่อเห็นกันไปแล้วว่า สูตรบาคาร่าแพ็คเก็ตทั้ง 4 แบบ มีหลักการเล่นอย่างไร อย่าลืมใช้สูตรให้ตรงตามรูปแบบที่กล่าวมาทั้งหมด และเมื่อใช้ได้ผล อยากให้เลือกห้องใหม่ และลองใช้สูตรแบบนี้ตามเดิม

ทั้งนี้เพื่อการป้องกันการผิดพลาดของสูตรนั่นเอง สูตรบาคาร่าแพ็คเก็ต เป็นเพียงสูตรหนึ่งในหลายๆ สูตร แต่ก็อยากแนะนำให้คนที่เพิ่งเข้ามาเล่นบาคาร่าออนไลน์ ลองเอาไปใช้ดู เพราะงบประมาณในการเล่นแต่ล่ะเกม เราสามารถกำหนดได้

กลับสู่สารบัญ

วิธีเล่นบาคาร่า ให้รวย สำหรับคนงบน้อย

ต้องขอยํ้าก่อนว่าเทคนิคนี้ เหมาะสำหรับคนที่มีงบน้อยเป็นหลัก เทคนิคต่อไปนี้จะช่วยทำให้การเดิมพันประสบความสำเร็จ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีเทคนิค หรือกลยุทธ์อะไรกันบ้าง (บา คา ร่า ขั้น ต่ํา 5 บาท)

1. วางแผนกำหนดกำไรที่ต้องการ

สิ่งแรกที่สำคัญสำหรับคนงบน้อยเลย ก็คือกำหนดการทำกำไรในแต่ละวัน ซึ่งหากได้กำไรตามแผนที่วางไว้ก็ต้องหยุดเล่นทันที เพราะไม่อย่างงั้นโอกาสที่คุณจะเสียคืนไปก็มีสูงไม่น้อย เนื่องจากต้นทุนที่ตํ่านั้นเอง เทคนิคนี้จะทำให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น และยังเป็นข้อได้เปรียบอีกด้วย เพราะอย่างที่ทราบว่าการเล่นพนันระยะสั้น จะได้ผลดีกว่าการเล่นแบบระยะยาว

2. เน้นลง Player

ด้วยความที่งบน้อย การเดิมพันที่คุ้มที่สุด จึงต้องเป็นฝั่งผู้เล่นหรือ Player เอาไว้ก่อน เพราะอัตราการจ่ายกับโอกาสที่จะชนะ คิดออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วคุ้มค่ามากที่สุด โดยเราต้องพยายามอ่านเค้าให้ดี เช่น ไพ่มักจะออก Player และ Banker สลับกันไปมา ให้เรารอจังหวะเดิมพันในฝั่ง Player เอาไว้ ซึ่งอาจจะสงสัยว่า ทำไมถึงไม่ลง Banker เพราะอัตราการจ่ายที่น้อยกว่า ทำคนงบน้อยไม่ควรเสี่ยงนั่นเอง

3. เริ่มจากเดิมพันที่ไม่มาก

การเดิมพันสำหรับคนงบน้อยนั้น ควรเริ่มด้วยการเดิมพันทีละน้อยๆ ก่อน เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสในการแก้ในการเล่น หากเริ่มต้นการเดิมพันด้วยวงเงินเยอะๆ หากเสียไปก็จะไม่มีโอกาศได้แก้มือในต่อไป

4. อย่าเลือกห้องที่เปิดไพ่ใหม่

ข้อห้ามของนักพนันทุกคน ไม่ควรที่จะร่วมเดิมพันในช่วงที่มีการเปิดไพ่สำรับใหม่ เพราะจะทำให้คาดคะเนโอกาสจะออกไพ่ได้ยาก ดังนั้นให้นักพนันมองว่าหาห้อง หรือโต๊ะที่ผ่านการเล่นมาแล้วสักระยะหนึ่งจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็สามารถเช็กสถิติ และดูไพ่ที่ออกไปแล้วได้ (วิธีเลือกห้องบาคาร่า)

5. อย่ายึดติดกับโต๊ะเดิม

อย่าฝืนเล่นโต๊ะเดิมต่อไป หากสถานะการไม่ค่อยดี เพราะเป็นการบอกว่า เจ้ามือกำลังมือขึ้น แม้เกมนี้จะสามารถใช้เทคนิคได้ แต่ก็ยังต้องอาศัยดวงเข้ามาช่วยด้วย ดังนั้นหากดูท่าไม่ดี การย้ายห้องก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมพอสมควร

เทคนิคการเล่นบาคาร่าออนไลน์ สำหรับคนงบน้อย ต้องบอกก่อนว่า การนำไปปรับใช้ของแต่ละคน ก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นอยากแนะนำให้เน้นเดินตามแผนการ และเลือกที่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ประสิทธิภาพของเทคนิคต่างๆ ก็จะเผยออกมาเอง

กลับสู่สารบัญ

สรุปสูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร

สูตรบาคาร่าฟรีใช้ได้จริง ถ้าจะให้เห็นผลลัพธ์เป็นกำไร คุณจะต้องรู้จักบริหารเงินทุน หรือที่เรียกว่า การเดินเงินบาคาร่าควบคู่กันไปด้วย สำหรับ สูตรบาคาร่าออนไลน์ที่เราได้แนะนำไปนั้น เป็นแนวทางในการวางเดิมพันเพื่อให้ได้เงินเยอะขึ้น ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการเล่นพนันออนไลน์ที่ดีที่สุด จะช่วยให้ท่านเสียเงินเดิมพันน้อยลงด้วย และเพิ่มกำไรมากขึ้นนั่นเอง ติดตามสูตรได้เพิ่มเติม

เป็นไงกันบ้างกับสูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับนักพนันอย่างแน่นอน ขอเพียงนำไปใช้อย่างถูกวิธี และระมัดระวัง อย่างไรก็ตามยังมีสูตรบาคาร่าให้ศึกษาอีกมาก ดังนั้นหากว่ารู้สึกว่า สูตรที่กล่าวมายังไม่โดนใจเราเท่าไหร่ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรายังมีสูตรบาคาร่ามาให้ศึกษากันอีกอย่างแน่นอน ขอเพียงติดตามเว็บ และบทความของทางทีมงานไว้อย่างต่อเนื่อง รับรองต้องมีสักสูตรที่ถูกใจแน่นอน

The post สูตรบาคาร่าฟรีไม่ต้องสมัคร ที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะเดิมพันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น appeared first on FIFA55 HERO.

]]>
ไพ่คู่-เสมอ เทคนิคทำเงิน ยอมเสี่ยง เพื่อแลกกับกำไร ผลตอบแทนที่มากถึง 8 เท่า https:///double-card-bacarat/ Sat, 25 Apr 2020 06:32:21 +0000 https:///?p=2177 สวัสดีคนรักบาคาร่าออนไลน์ทุกๆท่านครับ วันนี้ผมมีเทคนิคดีๆ ในการเล่น บาคาร่า ให้ได้กำไรมาฝากกัน โดยหลายคนคงไม่มั่นใจกับการ

The post ไพ่คู่-เสมอ เทคนิคทำเงิน ยอมเสี่ยง เพื่อแลกกับกำไร ผลตอบแทนที่มากถึง 8 เท่า appeared first on FIFA55 HERO.

]]>
สวัสดีคนรักบาคาร่าออนไลน์ทุกๆ ท่าน วันนี้มีเทคนิคดีๆ ในการเล่น บาคาร่า ให้ได้กำไรมาฝากกัน โดยหลายคนคงไม่มั่นใจกับการใช้สูตร จากบรรดากูรูที่เอามาให้ทดลองใช้กัน สำหรับวิธีที่ผมจะแนะนำในบทความนี้ ไม่จำเป็นต้องมีสูตรใดๆ เพียงแต่อาจจะต้องยอมเสี่ยง เพื่อแลกกับกำไรที่คุ้มค่า หากพร้อมแล้วไปดูกันเลย

สารบัญ

1. ไพ่คู่ – ไพ่เสมอ คืออะไร

2. การเลือกห้องเทคนิคไพ่คู่

3. การหากำไรจากไพ่คู่

4. สรุปการเล่นไพ่คู่

ไพ่คู่ ไพ่เสมอ คืออะไร

ปกติแล้ว เราจะคุ้นชินกับการเล่นฝั่งสีแดง (BANKER) และสีน้ำเงิน (PLAYER) แต่หลายคนคงเคยเห็นฝั่ง สีเขียว (TIE) กันมาบ้าง ซึ่งจะมีข้อแตกต่างอยู่ที่ตัวคูณของเงินรางวัล โดยจะมากกว่า 2 ตัวที่กล่าวมา ทั้งนี้ไพ่คู่ หรือไพ่เสมอ สามารถสังเกตุง่ายๆ คือ การรวมคะแนนกันของ 2 ใบ หรือ 3 ใบ ของทั้งสีแดง (BANKER) และสีน้ำเงิน (PLAYER) จะต้องมีแต้มที่เท่ากัน

ยกตัวอย่าง เช่น สีแดง (BANKER) มีไพ่ 3 คู่ กัน 2 ใบ และสีน้ำเงิน (PLAYER) มีไพ่ K กับ 6 เมื่อแต้มรวมกันแล้วจะได้แต้มเท่ากันที่ 6 คะแนน ก็จะถือว่าเกมนั้น ออกรางวัล สีเขียว (TIE) ไพ่เสมอนั่นเอง สมัครเล่นบาคาร่า คลิก

บาคาร่า ไพ่คู่ ไพ่เสมอ
กลับสู่สารบัญ

การเลือกห้องเทคนิคไพ่คู่

จากประสบการณ์ ห้องที่ควรกับการพนันไพ่คู่ หรือไพ่เสมอมากที่สุด มีลักษณะดังนี้

ห้องที่ไม่เคยออกสีเขียว (TIE) เลย

  • ห้องแบบนี้อาจจะดูเสี่ยงกับการจะเข้าไปเล่น แต่ห้องที่ไม่เคยออกสีเขียว (TIE) นั้น ก็มีโอกาสสูง ในการจะออกเกมถัดๆ ไป

ห้องที่ออกสีเขียว (TIE) แถวล่ะ 1 ครั้ง

  • ห้องที่มีสถิติค่อนข้างแน่นอน เพราะหากอยากลดความเสี่ยงจากการดูสถิติ ห้องแบบนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ห้องที่สีเขียว (TIE) ออกบ่อยเป็นพิเศษ

  • ไม่ต้องมีสถิติอะไรให้มาก ห้องที่มีการออกของสีเขียว (TIE) มากเป็นพิเศษ อาจจะมีดวงกับการเล่นไพ่คู่ ก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม (วิธีเลือกห้องบาคาร่า ให้ได้เปรียบ)

เว็บพนันออนไลน์
กลับสู่สารบัญ

การหากำไรจากไพ่คู่

กำหนดการเล่นให้ชัดเจน

  • การพนันไพ่คู่ หรือไพ่เสมอ ควรจะกำหนดขอบเขตการเล่นให้ชัด ว่าทุนที่มีอยู่สามารถเล่นได้กี่ทั้งหมดเกม ซึ่งตัวคูณที่มากกว่า หากเราเสีย 4-5 เกมติด แต่มาชนะในเกมที่ 6 ก็จะได้กำไร การกำหนดแบบนี้ จะไม่ทำให้เราเสียน้อยเสียมาก เสียยากเสียง่าย

ศึกษาการเล่นบาคาร่าให้ดี

  • การเล่นไพ่คู่นั้น เป็นวิธีการที่ต้องมีความรู้ในการเล่นบาคาร่ามาแล้วพอสมควร ฉะนั้นผมแนะนำให้ ศึกษาวิธีการ สอนเล่นบาคาร่าออนไลน์ (บาคาร่าเล่นยังไง มาทำความเข้าใจ กฎกติกาต่างๆ ที่ต้องรู้กัน) ให้ละเอียดเสียก่อน เพราะจะได้รู้วิธีการเข้าเล่นเกม การดูทั้งสีแดง (BANKER) และสีน้ำเงิน (PLAYER) เพื่อจะได้ง่ายต่อการเล่นไพ่คู่

เล่นอัตราเงินเท่าๆ เดิม

  • การเล่นเสมอนั้นมีการคูณอยู่ที่ 1 จ่าย 8 เพราะฉะนั้นการเล่นในวงเงินเท่าๆ เดิม จะทำให้เราคิดเรื่องการเล่นกำไร และขาดทุนได้ง่าย ไม่ควรเล่นแบบตามใจตัวเองในการวางเดิมพัน หากเราเล่นเกมที่แพ้ในจำนวนเงินที่มาก แต่มาเล่นในเกมที่ชนะด้วยจำนวนเงินน้อย อาจจะทำให้ท่านต้องเล่นหลายเกมกว่าจะได้ทุนหรือกำไร

ยอมรับความเสี่ยง

  • ไพ่คู่ หรือไพ่เสมอนั้น ออกไม่บ่อย และไม่มีกำหนดตายตัวเสีย ต่างกับการเล่นแบบเลือกข้างชนะที่จะได้ลุ้นตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการเล่นพนันด้วยวิธีการนี้ คนที่เล่นต้องยอมรับความเสี่ยง เพื่อแลกกับผลตอบแทนที่มากถึง 8 เท่า หากใครรับได้ก็ต้องศึกษาวิธีการเล่นให้ดีๆ ก่อนที่จะลงเดิมพัน

เคล็ดลับ หากคุณเป็นคนที่ไม่อย่ากจะเสี่ยงมากนัก ให้เลือกแทง เพลเยอร์ และแบงค์เกอร์ร่วมด้วย โดย ทำการแทงเพลเยอร์ แบงค์เกอร์ ไปตามปกติ แล้วเมื่อโอกาสมาถึง ให้เราเดิมพันเพิ่มไปที่ไพ่คู่ทั้งสองฝั่ง และเดิมพันเสมอด้วย

กลับสู่สารบัญ

สรุปทิ้งท้ายการเล่นไพ่คู่

การเล่นไพ่คู่นั้น เป็นเหมือนดาบ 2 คม มีทั้งข้อดี และข้อเสีย เพราะมีผลตอบแทนสูงมากกว่าปกติถึง 8 เท่า แต่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วย สำหรับบางคน โดยเฉพาะมือใหม่ แนะนำให้ศึกษาอย่าละเอียดเกี่ยวกับการทำกำไรกับวิธีนี้ เพราะเทคนิคบาคาร่า ยังมีอีกหลายรูปแบบให้เลือกเล่น สามารถลองได้หลายๆ แนวทาง เนื่องจากการเล่นไพ่คู่ หรือเสมอนั้น มีเปอร์เซ็นได้รางวัลน้อยกว่ารูปแบบอื่นๆ

The post ไพ่คู่-เสมอ เทคนิคทำเงิน ยอมเสี่ยง เพื่อแลกกับกำไร ผลตอบแทนที่มากถึง 8 เท่า appeared first on FIFA55 HERO.

]]>