ประวัติทีมลิเวอร์พูล ที่เรานำมาบอกเล่านั้นมีทั้งเรื่องของ ประวัติศาสตร์ทีม สถิติ และข้อมูลนักเตะ ที่จะมาช่วยให้ทีมได้ครองแชมป์ในฤดูกาลนี้ แฟนคลับทีมหงส์แดงไม่ควรพลาด ทีมลิเวอร์พูลนั้นมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 129 ปี เป็นทีมฟุตบอลชื่อดังจากเกาะอังกฤษที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เคยทำสถิติชนะเลิศลีกสูงสุดถึง 19 สมัย, เอฟเอคัพ 7 สมัย, ลีกคัพ 8 สมัยและเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 15 สมัย นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังมีแฟนคลับทีมหงส์แดงเหนียวแน่นเสมอมา และยังมีคู่ปรับตลอดกาลอย่างทีมแมนยู ที่คอยเบียดกันแย่งแชมป์ อนาคตทีมหงส์แดงจะเป็นอย่างไรต่อไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่นี่ อยากเล่นแทงบอลลิเวอร์พูล สมัครเล่นกับเราที่ FIFA55
สารบัญเนื้อหา
ประวัติทีมลิเวอร์พูล Liverpool
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล นั้น (อังกฤษ: Liverpool Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพตั้งอยู่ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ แข่งขันอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ
สโมสรก่อตั้งใน ค.ศ. 1892 และได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกในปีต่อมา ลิเวอร์พูลใช้สนามแอนฟีลด์ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ถึงคริสต์ทศวรรษ 1980 เมื่อบิลล์ แชงคลี, บ๊อบ เพสลีย์, โจ เฟแกนและเคนนี แดลกลีช พาทีมชนะเลิศลีกสูงสุด 11 สมัยและยูโรเปียนคัพ 4 ใบ ต่อมาลิเวอร์พูลชนะเลิศการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนลีกอีก 2 สมัย ภายใต้การคุมทีมของราฟาเอล เบนิเตซและเยือร์เกิน คล็อพตามลำดับ ซึ่งคล็อพสามารถนำทีมชนะเลิศลีกสูงสุดในฤดูกาล 2019–20 นับเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดสมัยที่ 19 และสมัยแรกของยุคพรีเมียร์ลีก โดยเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี
ใน ค.ศ. 2019 ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรฟุตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลกด้วยรายได้ประจำปี 604 ล้านยูโร และเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอันดับที่ 8 ด้วยมูลค่า 2.183 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในโลก
สถิติการแข่งขัน
สำหรับการแข่งขันภายในประเทศ ลิเวอร์พูลชนะเลิศ
- Premier League 19 สมัย
- FA CUP 7 สมัย
- EFL CUP 8 สมัย
- FA Community Shield 15 สมัย
ส่วนการแข่งขันระดับนานาชาติ ลิเวอร์พูลชนะเลิศ
- UEFA Champions League 6 สมัย
- UEFA CUP 3 สมัย
- UEFA Super Cup 4 สมัย
- FIFA Club World Cup 1 สมัย
คู่ปรับตลอดกาลของลิเวอร์พูล
ซึ่งแข่งขันด้วยกันมาอย่างยาวนาน ได้แก่
- แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- เอฟเวอร์ตัน
เสื้อลิเวอร์พูล 2020
ลิเวอร์พูลใช้เสื้อสีแดงและกางเกงขาสั้นสีขาวเป็นชุดแข่งขันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1896 ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มตัวเมื่อเล่นเป็นทีมเหย้าตั้งแต่ ค.ศ. 1964 เป็นต้นมา
- ฉายาในภาษาอังกฤษของลิเวอร์พูลคือ “เดอะเรดส์” (The Reds) ส่วนฉายาที่ชาวไทยนิยมเรียกคือ “หงส์แดง”
- ลิเวอร์พูลมีเพลงประจำสโมสรคือ “ยูลล์เนฟเวอร์วอล์กอะโลน” (You’ll Never Walk Alone)
ผู้สนับสนุนของสโมสรได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมที่สำคัญ 2 ครั้ง ได้แก่ ภัยพิบัติสนามกีฬาเฮย์เซลที่กำแพงพังลงมาทับผู้สนับสนุนในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพ 1985 ที่บรัสเซลส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาลีและผู้สนับสนุนยูเวนตุส หลังจากนั้นยูฟ่าได้ระงับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปของสโมสรจากอังกฤษเป็นระยะเวลา 5 ปี และภัยพิบัติฮิลส์โบโรใน ค.ศ. 1989 เมื่อผู้สนับสนุนของลิเวอร์พูล 96 คนเสียชีวิตจากการถูกบีบอัดติดกับรั้วที่กั้นสนาม นำไปสู่การยกเลิกรั้วกันสนามบริเวณที่ยืน โดยกำหนดให้สนามกีฬาของสโมสรในลีกสองระดับแรกของฟุตบอลอังกฤษต้องเป็นแบบมีที่นั่งทั้งหมด
เบื่อแทงบอล อยากเล่นคาสิโนออนไลน์ คลิก
ประวัติตราสโมสรลิเวอร์พูล
ตราสโมสรของลิเวอร์พูลมีนกไลเวอร์ สัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งในอดีตถูกนำมาใส่ในโล่ ต่อมาใน ค.ศ. 1992 ซึ่งเป็นปีที่มีการรำลึกถึงร้อยปีของสโมสร มีการออกแบบตราสโมสรใหม่โดยนำสัญลักษณ์ที่อยู่บนประตูแชงคลีมาใส่ไว้ด้วย ปีต่อมามีการใส่คบเพลิงคู่ไว้ทั้งสองด้านของตราสโมสร เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอนุสรณ์สถานฮิลส์โบโรที่ตั้งอยู่ด้านนอกแอนฟีลด์ และระลึกถึงผู้เสียชีวิตในภัยพิบัติฮิลส์โบโร ใน ค.ศ. 2012 ชุดแข่งแรกของวอร์ริเออร์สปอร์ตส์นำโล่และประตูออกไป เหลือแค่นกไลเวอร์เหมือนกับชุดแข่งในทศวรรษ 1970 คบเพลิงถูกย้ายไปอยู่ด้านหลังเสื้อ ล้อมตัวเลข 96 ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตในภัยพิบัติฮิลส์โบโร
ประวัติลิเวอร์พูล นักเตะ
ทีมนักเตะของลิเวอร์พูลชุดล่าสุดนั้นมีคนที่น่าสนใจอยู่หลายคนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์
- เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
- เตียโก อัลกันตารา
- ซาดีโย มาเน
เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นฝีเท้าดี ความฟิตมาเต็ม แถมยังเล่นเข้าขากันดีมากอีกด้วย
เบอร์เสื้อ | รูป | นักเตะ | ตำแหน่ง | สัญชาติ | อายุ |
---|---|---|---|---|---|
1 | อลิสสัน เบ็คเกอร์ | ผู้รักษาประตู | บราซิล | 28 | |
13 | อาเดรียน | ผู้รักษาประตู | สเปน | 33 | |
22 | ลอริส คาริอุส | ผู้รักษาประตู | เยอรมัน | 28 | |
62 | เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ | ผู้รักษาประตู | ไอร์แลนด์ | 21 | |
มาเซโล พิทาลูกา | ผู้รักษาประตู | บราซิล | 18 | ||
4 | เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค | กองหลัง | เนเธอร์แลนด์ | 29 | |
5 | อิบราฮิมา โคนาเต้ | กองหลัง | ฝรั่งเศส | 22 | |
12 | โจ โกเมซ | กองหลัง | อังกฤษ | 23 | |
21 | คอนสแตนตินอส ชิมิกาส | กองหลัง | กรีซ | 24 | |
26 | แอนดี้ โรเบิร์ตสัน | กองหลัง | สก็อตแลนด์ | 26 | |
28 | เบน เดวีส์ | กองหลัง | อังกฤษ | 25 | |
32 | โจเอล มาติป | กองหลัง | แคเมอรูน | 29 | |
46 | รีส วิลเลี่ยม | กองหลัง | อังกฤษ | 20 | |
47 | นาธาเนียล ฟิลลิปส์ | กองหลัง | อังกฤษ | 24 | |
66 | เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ | กองหลัง | อังกฤษ | 22 | |
72 | เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก | กองหลัง | เนเธอร์แลนด์ | 18 | |
76 | เนโก วิลเลี่ยมส์ | กองหลัง | เวลส์ | 19 | |
3 | ฟาบินโญ่ | กองกลาง | บราซิล | 27 | |
6 | ติอาโก้ | กองกลาง | สเปน | 29 | |
7 | เจมส์ มิลเนอร์ | กองกลาง | อังกฤษ | 34 | |
8 | นาบี เกอิต้า | กองกลาง | กินี | 25 | |
14 | จอร์แดน เฮนเดอร์สัน | กองกลาง | อังกฤษ | 30 | |
15 | อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน | กองกลาง | อังกฤษ | 27 | |
16 | มาร์โค กรูยิช | กองกลาง | เซอร์เบีย | 25 | |
17 | เคอร์ติส โจนส์ | กองกลาง | อังกฤษ | 19 | |
23 | เซอร์ดาน ชากิรี่ | กองกลาง | สวิสเซอร์แลนด์ | 29 | |
58 | เบน วูดเบิร์น | กองกลาง | เวลส์ | 21 | |
59 | แฮร์รี่ วิลสัน | กองกลาง | อังกฤษ | 24 | |
9 | โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ | กองหน้า | บราซิล | 29 | |
10 | ซาดิโอ มาเน่ | กองหน้า | เซเนกัล | 28 | |
11 | โมฮาเหม็ด ซาลาห์ | กองหน้า | อิยิปต์ | 28 | |
18 | ทาคูมิ มินามิโนะ | กองหน้า | ญี่ปุ่น | 25 | |
20 | ดิโอโก้ โชต้า | กองหน้า | โปรตุเกส | 23 | |
27 | ดิว็อค โอริกี้ | กองหน้า | เบลเยี่ยม | 25 | |
54 | เชยี่ โอโจ้ | กองหน้า | อังกฤษ | 24 | |
67 | ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ | กองหน้า | อังกฤษ | 18 |
ดูรายชื่อนักเตะลิเวอร์พูลเพิ่มเติม คลิก
ลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกล่าสุด
ในยุคของ เยือร์เกิน คล็อพ (เยอรมัน: Jürgen Norbert Klopp) ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันคนเก่ง สามารถนำทีมชนะเลิศลีกสูงสุดในฤดูกาล 2019–20 นับเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดสมัยที่ 19 และสมัยแรกของยุคพรีเมียร์ลีก โดยเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี
คล็อพได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลเมื่อปี ค.ศ. 2015 นำทีมสู่นัดชิงชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 2018 และ 2019 โดยในครั้งหลังทำให้ลิเวอร์พูดครองแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ถือเป็นแชมป์ครั้งที่ 6 ของสโมสร และถือเป็นครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีมของเขา คล็อพนำสโมสรได้อันดับ 2 บนตารางพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 จนในฤดูกาลถัดมาคล็อพก็สามารถทำให้ลิเวอร์พูลชนะเลิศในยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 (ถือเป็นครั้งแรกของสโมสร) นำทีมไร้พ่าย 44 นัดในลีก ยาวนานเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ และยังทำให้ทีมเป็นแชมป์ในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของลิเวอร์พูลได้
แทงบอลลิเวอร์พูล แทงบอลออนไลน์ กับเราที่ FIFA55
สรุป
ทีมลิเวอร์พูลเป็นทีมฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ทั้งได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดคว้าแชมป์หลายสมัย จนถึงช่วงต่ำสุดที่ไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย แต่ก็ยังคงเป็นทีมฟุตบอลที่อยู่ในใจของใครหลายๆ คนเสมอมา ทีมลิเวอร์พูลในยุคของการนำทีมโดยคล็อพ นั้น ถือได้ว่าเป็นช่วงที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง อนาคตของทีมที่จะคว้าถ้วยแชมป์เพิ่มอีกสมัย และคว้าแชมป์ระดับนอกประเทศได้ คงอยู่ไม่ไกล ด้วยความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งทีมนักเตะที่มีผู้เล่นเจ๋งๆ ฝีเท้าดีมาช่วยเสริมทัพ มีผู้จัดการดีที่ช่วยปรับทีมให้พร้อมสู้ศึกเสมอมา และยังมีแฟนคลับที่พร้อมจะสนับสนุนทีมตลอดไป
แทงบอลออนไลน์กับ FIFA55 รับรองไม่มีผิดหวัง แทงบอลจริงได้กำไรจริง ฝาก ถอนเงินง่ายมากๆ ไม่มีหมกเม็ด เรามีแอดมินคอยบริการตลอด 24 ชั่วโมง ติดปัญหาเมื่อไหร่ ถามเราได้เลยทันทีมีคำตอบให้ เราเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 20 ปี ระบบสเถียร ฐานะการเงินมั่นคงกว่าที่ไหนๆ หมดห่วง ไว้ใจได้ ฝากงินเล่นกับ ฟีฟ่า55 เงินไม่หายแน่นอน สมัครแทงบอลออนไลน์ คลิก